กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต จากกรณีเข้ารับวัคซีนพื้นฐาน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 แล้วต่อมาเสียชีวิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งการเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว

 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต จากกรณีเข้ารับวัคซีนพื้นฐาน (คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP4), โปลิโอชนิดหยอด (OPV4)) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผาตอ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน แล้วเวลาต่อมาน้องเสียชีวิต ในด้านการสอบสวนโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคดำเนินการส่งทีมระบาดวิทยาลงพื้นที่สอบสวนการเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินงานระบบเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
ที่เกิดขึ้นหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งกรมควบคุมโรค โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ และกองระบาดวิทยา กำลังลงพื้นที่เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตร่วมกับทีมของจังหวัด ทำการเก็บข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต การตรวจทางห้องปฏิบัติการและผลชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และความเกี่ยวข้องกับอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค การให้บริการวัคซีนและการจัดเก็บวัคซีน ติดตามเด็กกลุ่มที่เข้ารับบริการวัคซีนชนิดเดียวกันในลอตเดียวกัน โดยข้อมูลจากการสอบสวนโรคจะนำเข้าที่ประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (Adverse Event Following Immunization: AEFI) ที่ประกอบด้วยอาจารย์แพทย์และผู้ทรงคุณวุฒิระดับชาติหลายสาขา เช่นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ ภูมิคุ้มกันวิทยา ความปลอดภัยวัคซีน ร่วมกันพิจารณาความเกี่ยวข้องของเหตุการณ์นี้กับวัคซีนด้วยข้อมูลด้านต่างๆที่ครบถ้วนพร้อมให้คำแนะนำต่อไป

“สำหรับวัคซีน คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP) และโปลิโอชนิดหยอด (OPV) ถือเป็นวัคซีนพื้นฐานที่มีความปลอดภัยและมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นวัคซีนที่อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมานานกว่า 40 ปี กรณีที่พบเด็กที่รับวัคซีนมีอาการข้างเคียงจะต้องทำการสอบสวนทุกรายเพื่อให้ทราบแน่ชัด ทั้งนี้ เด็กไทยทุกคนควรได้รับวัคซีนนี้เนื่องจากสามารถป้องกันโรคคอตีบ-โรคบาดทะยัก-โรคไอกรน และโรคโปลิโอ ซึ่งเป็นโรคที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ โรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีนให้ครบตามกำหนด นับเป็นวัคซีนจำเป็นที่ต้องให้กับ
เด็กทุกคนและจัดอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ไม่เสียค่าใช้จ่าย” นายแพทย์ธงชัย กล่าว

กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีนที่ให้บริการในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานการควบคุมคุณภาพ และติดตามผลข้างเคียงอย่างเป็นระบบ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422