เคเคเดย์ (KKday) แพลตฟอร์มรวมประสบการณ์ท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเอเชีย ได้เปิดตัวเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส (KKday Marketplace) อย่างเป็นทางการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังบริษัทคาดว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2566 หลังจากที่ปี 2565 ทำรายได้เป็นสถิติใหม่ทั่วโลก เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส ได้รับการออกแบบให้ช่วยผู้ค้าในท้องถิ่นพัฒนาการค้าแบบอีคอมเมิร์ซ และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการเพื่อรองรับนักเดินทางจากทั่วโลก ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยแชร์ทราฟฟิกเครือข่ายของเคเคเดย์ที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ในช่วงเริ่มต้นแคมเปญนี้จะมุ่งเป้าไปที่ผู้ประกอบการกิจกรรมทางน้ำและกิจกรรมกลางแจ้ง โดยจะมีการเสนอส่วนลดค่าคอมมิชชันล่วงหน้า ทางเคเคเดย์ตั้งเป้าหมายเข้าถึงผู้ค้าให้ได้ 2,000 รายทั่วโลกในปี 2566 พร้อมกับขยายโอกาสในการเดินทางข้ามพรมแดนในยุคหลังการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การท่องเที่ยวในเอเชียฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่หลังการสำรวจตลาดในประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียแล้ว ทางเคเคเดย์พบว่าผู้ขายประสบการณ์การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 90% ยังไม่ได้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งกลับกันกับผู้เดินทางที่ใช้เคเคเดย์จำนวนกว่า 85% ที่ทำการสั่งซื้อแพ็กเกจและประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านอุปกรณ์พกพา และคุ้นชินกับการท่องเว็บแบบดิจิทัล จองออนไลน์ ชำระเงินออนไลน์ และการโต้ตอบกับฝ่ายบริการลูกค้าได้ทันที  นอกจากนี้ เคเคเดย์ยังตั้งเป้าไปที่การท่องเที่ยวเชิงดิจิทัลและโอกาสในการเติบโตของบริการแบบไร้สัมผัส โดยได้เปิดตัวระบบการจองเรซิโอ (rezio) ในปี 2563 ซึ่งให้บริการนักเดินทางมาแล้วกว่า 5.1 ล้านคนทั่วโลก และได้เปิดตัวบริการเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส เมื่อปลายปี 2564 เพื่อช่วยซัพพลายเออร์ด้านการท่องเที่ยวในการสร้างแบรนด์อีคอมเมิร์ซของตนเอง

เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส มาพร้อมข้อได้เปรียบหลัก 6 ข้อ ได้แก่ 1) เปิดโอกาสให้ผู้ค้าตั้งร้านค้าของตนเองได้อย่างรวดเร็ว 2) แสดงรายการสินค้าได้อย่างอิสระ 3) ตั้งราคาสินค้าได้อย่างยืดหยุ่น 4) ควบคุมรายการสินค้าได้อย่างถูกต้อง 5) ตอบรับคำสั่งซื้อได้ทันที และ 6) เข้าถึงทราฟฟิกของแพลตฟอร์มเคเคเดย์ได้ทั่วโลก ปัจจุบัน เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส มีผู้ค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการด้านกิจกรรมทางน้ำและกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้ให้บริการประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และตัวแทนธุรกิจการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส มีความมุ่งหวังขยายธุรกิจในตลาดนี้ เพื่อตอบรับกับตลาดท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะกลับมาคึกคักอย่างมากหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

              image.png

เคเคเดย์เล็งเห็นว่า แม้ผู้ค้ารายเล็กจำนวนมากที่มุ่งเน้นประสบการณ์ท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะรักษาธุรกิจของตนให้พ้นจากวิกฤตโรคระบาด และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นพื้นฐานในการดำเนินงานอยู่บ้าง เช่น เว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่ความสามารถในการดึงดูดทราฟฟิกผู้ใช้จากต่างประเทศและนักเดินทางจากทั่วโลกยังคงมีข้อจำกัดแม้การเดินทางระหว่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัวแล้ว ปัจจุบัน ผู้ค้าในญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวันได้ใช้บริการเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส ที่มีระบบให้บริการในหลากหลายภาษาสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการฟื้นตัวของการเดินทางข้ามพรมแดน เช่น ผู้ประกอบการรถเอทีวีเจ้าเล็ก ๆ รายหนึ่งในเขตฮวาเหลียนของไต้หวันชื่อเอ็มเค เอทีวี (MK ATV) ได้รับคำสั่งซื้อจากนักท่องเที่ยว ทั้งจากฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่เยอรมนีและอเมริกาเหนือ หลังเข้าร่วมเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส ส่งผลให้รายได้โตกว่า 30% ขณะเดียวกัน บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวของญี่ปุ่นอย่างโอเรนจ์บัส (OrengeBus) อาศัยประโยชน์จากบริการหลายภาษา และทราฟฟิกจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมากหลังจากเป็นผู้ค้าบนเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส โดยสร้างรายได้มากถึง 12 ล้านเยนภายในเดือนเดียว และธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นสวรรค์แห่งการสำรวจและผจญภัยสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยตัวเอง ด้วยทัวร์ประสบการณ์ในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์และมีความพิเศษเฉพาะตัว ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสภูมิภาคแห่งนี้ได้เป็นอย่างมาก เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส จึงมุ่งส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ค้ารายย่อยที่ไม่ใช่แฟรนไชส์ซึ่งมีพนักงานไม่ถึง 10 คนและมีเงินทุนไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งให้บริการท่องเที่ยวในเมืองเดียวหรือเกาะเดียว และเป็นผู้ประกอบการที่ยินดีรับนักเดินทางทั่วไป โดยให้บริการได้ทั้งในภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ และบริการที่เน้นการทัวร์เต็มวันแบบเจาะลึก จนถึงประสบการณ์ทัวร์แบบครึ่งวั

ด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบด้านภาษาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางเคเคเดย์จึงเห็นว่า การทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายเล็ก ๆ ในภูมิภาคแห่งนี้มีศักยภาพที่ดีขึ้นหลังยุคการแพร่ระบาดใหญ่จะเป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างยิ่ง โดยในระยะเริ่มต้นนี้ ทางเคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส จะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการกิจกรรมทางน้ำและกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเสนอส่วนลดค่าคอมมิชชันล่วงหน้า เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สร้างแบรนด์ของตนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจในฤดูท่องเที่ยวฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์เคเคเดย์ มาร์เก็ตเพลส