ธนาคารกสิกรไทย หนุนศักยภาพด้านดิจิทัลให้กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่พร้อมสู่โลกเศรษฐกิจ ดิจิทัล เปิดเว็บไซต์ WWW.SKILLKAMP.COM รวมหลักสูตรด้านดิจิทัลราว 250 คอร์สจากผู้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ชั้นนำ 14 แห่ง ต่อยอดความสำเร็จโครงการ “สกิลแคมป์” (SKILLKAMP) หลักสูตรพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านดิจิทัลแห่งอนาคต โดยจับมืแพลฟอร์ม SEEN จาก BASE Playhouse สตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ พร้อมด้วย องค์กรพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่  Ascend, KASIKORN Line, Rise, Storylog และThaiBev ร่วมออกแบบเวิร์คชอปให้ผู้เข้าโครงการได้ลองทำโจทย์การทำงานจริงในสายงานที่ตัวเองต้องการ และนำเสนอผลงานกับตัวแทนบริษัทชั้นนำ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,800 คน

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี และมีความตั้งใจในการนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศไทยที่อยู่ท่ามกลางความท้าทายของเทคโนโลยีที่กำลังพลิกโฉมภาคธุรกิจและการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ รายงาน The Future of Jobs โดย จาก World Economic Forum ระบุว่า ก่อนจะถึงปี 2568 พนักงานกว่า 50% ทั่วโลกจะเป็นจะต้องมีการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskill) เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคต ในขณะที่ข้อมูลจาก Amazon Web Service ระบุว่า 90% ขององค์กรในไทย ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัล และ 93% ของบุคลากรในไทยที่สำเร็จการฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้พบว่าแรงงานที่ใช้ทักษะดิจิทัลในไทยสามารถสร้างรายได้มากกว่า ล้านล้านบาท  ธนาคารกสิกรไทยจึงได้เริ่มดำเนินโครงการ SKILLKAMP เพื่อสนับสนุนกลุ่มเป้าหมาย คือ คนทำงานรุ่นใหม่ทั้งที่เรียนและทำงานในสายดิจิทัลและเทคโนโลยีโดยตรง รวมถึงคนที่ไม่ได้เรียนหรือทำงานในสายนี้โดยตรง แต่มีความสนใจและต้องการพัฒนาตนเองเพื่อสร้างโอกาสเติบโตในวิชาชีพ โดยธนาคารได้ออกแบบเวิร์คชอปร่วมกับแพลตฟอร์ม SEEN จาก BASE Playhouse ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ พร้อมประสานความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ได้แก่ แอสเซนด์ (Ascend) กสิกร ไลน์ (KASIKORN Line) ไรส์ (Rise) สตอรี่ล็อก (Storylog) และ ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) จัดหลักสูตรที่เน้นพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลใน 5 วิชาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน ได้แก่ 1) Business Analyst 2) Data Analytics and Visualization 3) Front-End Developer 4) Performance Marketing 5) Web Developer โดยได้ผลตอบรับที่ดีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,800 คน และมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้รับโอกาสให้นำเสนอโมเดลธุรกิจดิจิทัลกับบริษัทชั้นนำดังกล่าว 45 คน

นายเมธวิน ปิติพรวิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง BASE Playhouse ล่าวว่า BASE Playhouse และธนาคารกสิกรไทยใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาโครงการนี้ให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่มากที่่สุด โดยธนาคารเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำและมีช่องทางกระจายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่คนรุ่นใหม่ ในขณะที่ BASE Playhouse ได้มีแพลตฟอร์ม SEEN ที่ถูกสร้างจากความเชื่อที่ว่าการเรียนรู้ที่มีความหมาย เกิดจากผู้คนควรรู้ว่าตัวเองเด่นด้านใดและขาดทักษะอะไร เพื่อสร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง SEEN จึงเป็นแพลตฟอร์มวัดระดับความสามารถได้ชัดเจน ตรงจุด และมีความแม่นยำ จากงานวิจัยด้านการเรียนรู้ครอบคลุมทั้ง Hard skill ที่ประเมินทักษะทางวิชาการและ Soft skill ที่จำเป็นต่อการทำงานแต่ละสายอาชีพได้จริงพร้อมระบบป้องกันการทุจริต โครงการ SKILLKAMP จะเป็นพื้นที่สำหรับให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพที่มีในสายงานนั้นได้อย่างเต็มที่  ล่าสุด โครงการ SKILLKAMP ได้ต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว โดยการเปิดแพลตฟอร์มรวบรวมหลักสูตรสำหรับทักษะแห่งอนาคตที่ตลาดแรงงานต้องการบนเว็บไซต์ WWW.SKILLKAMP.COM

เคแบงก์ ชูความสำเร็จโครงการ SKILLKAMP เสริมแกร่งทักษะดิจิทัลเพิ่มโอกาสให้คนทำงานรุ่นใหม่ เติบโตในสายงานที่โลกอนาคตต้องการ   

โดยมีหลักสูตรด้านดิจิทัลให้เรียนฟรีกว่า 250 คอร์สจากผู้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ชั้นนำ 14 แห่ง ได้แก่  9Expert, BorntoDev, ConicleX, DataRockie, FutureSkill, HACKaTHAILAND, Klasssi, LINE Developers Thailand, PrasertCBS, SkillLane, Thai MOOC, ThaiWinner, WeStride และ Zinglecode โดยเว็บไซต์มีจุดเด่นในการคัดกรองคอร์สที่มีคุณภาพให้คำแนะนำแนวทางพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ  ช่วยประหยัดเวลา และทำให้การค้นหาตรงตามความต้องการ โดยในอนาคตจะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียน นำไปสู่การเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพพร้อมร่วมงานกับธนาคารและบริษัทในเครือ

นายพิพิธ กล่าวตอนท้ายว่า ธนาคารเชื่อมั่นว่าผู้เข้าเรียนหลักสูตรในโครงการของ SKILLKAMP จะได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ดี และสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาทักษะต่อไปเพื่อเพิ่มโอกาสด้านการทำงาน นอกจากนี้ จะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่มองหาบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาธุรกิจหรือต้องการทำ Digital Transformation สามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการ เพื่อเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไป       และร่วมเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในโลกธุรกิความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมเวิร์คชอป

นายธรรพ์ณธร จักคำบาง (ฟอร์มเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะการจัดการ ธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เพิ่งเรียนจบและมีความสนใจงานด้าน Marketing แต่ยังไม่มีความรู้และประสบการณ์ เมื่อเห็นโครงการ SKILLKAMP เลยลองสมัครดู การที่ได้เข้ามาทำแบบทดสอบและเข้าสู่รอบ Business Case ทำให้ได้เห็นมุมมองงานด้าน Marketing มากยิ่งขึ้น อีกทั้งการนำเสนอผลงานต่อกรรมการทำให้ได้รับคำแนะนำที่ดี ข้อชี้แนะในประเด็นต่างๆ ที่ตนอาจยังนึกไม่ถึง ทำให้เติมเต็มความรู้และประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี

นางสาวปวีณ์นุช ฐานานุศักดิ์ (ยู้ว) นักศึกษาชั้นปีที่ คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ SKILLKAMP เพราะสนใจและต้องการพัฒนาทักษะด้าน Performance Marketing ชอบโปรแกรมที่ทาง SKILLKAMP จัดให้ เพราะมีความกระชับ ครบ และจบ ใน เดือน ได้ลองทำงานคนเดียว แบบมีเวลาจำกัด รวมถึงได้รับคอมเมนต์จากเมนเทอร์ที่มาให้คำแนะนำ ทำให้เราสามารถนำไปปรับและใช้ในงานต่อไปได้ รู้สึกท้าทายที่ได้ทดลองและได้พัฒนาทักษะที่ตัวเองชอบ

นายกัณติกรณ์ สรสุริยวงษ์ (เพชรนักศึกษาชั้นปีที่ ปวส. สาขานักพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า “SKILLKAMP เป็นโครงการที่เปิดกว้าง ไม่จำกัดว่าจะมีความรู้หรือประสบการณ์มากน้อยเพียงใดก็สามารถสมัครได้ อีกทั้งบริษัทร่วมในโครงการก็เป็นบริษัทที่น่าสนใจในสายงานเลยสมัครเข้ามา เมื่อผ่านเข้ารอบ Business Case มาก็มีเมนเทอร์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี ถ้ามีโครงการนี้เกิดขึ้นก็อยากจะชวนเพื่อนๆ ที่สนใจสายงานเหล่านี้มาสมัคร เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ลองทำจริง ได้พัฒนาตัวเอง ได้ประสบการณ์ที่จะได้เข้าไปสู่สายงานเทคโนโลยีได้

นางสาวณัฐณิชา ธนปุณยนันท์ (ไอโกะ) นักศึกษาชั้นปีที่ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังหาที่ฝึกงานว่าจะเลือกฝึกอะไรดีและเห็นข่าวว่าโครงการ SKILLKAMP โดยเคแบงก์เปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจอยากทำในสายดิจิทัล จึงได้เข้ามาลองดู ชอบในความแปลกใหม่มาก เพราะได้ทำโจทย์ธุรกิจ Business Case เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย และยาก แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับประสบการณ์ ได้ทำอะไรใหม่ๆ