กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.25 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.68-35.28 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 4 เดือน สอดคล้องกับค่าเงินหยวนที่ร่วงลง ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ให้การต่อสภา โดยระบุว่าสมาชิกจำนวนมากในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด(FOMC) คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีกราว 1-2 ครั้งซึ่งจะเป็นระดับที่มากพอสำหรับการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในรอบนี้บนเงื่อนไขแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นไปตามที่ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์ไว้ และเฟดจำเป็นที่จะต้องรอจนกว่าจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่2% ก่อนจะมองถึงเรื่องการลดดอกเบี้ยลง โดยการที่เฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นั้น สะท้อนการชะลอความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ย ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาดที่ 50bp สู่ 5.00% ด้วยมติ 7-2 หลังเงินเฟ้อพื้นฐานพุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 30 ปี ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 4,913 ล้านบาท และ 10,839 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับความเห็นของผู้นำธนาคารกลางหลักในงาน ECB Forum รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯและเครื่องบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจจีน อนึ่ง เรามองว่าท่าทีล่าสุดของประธานเฟดซึ่งระบุว่าจะใช้ความระมัดระวังในเรื่องจังหวะความเร็วสำหรับการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต่อจากนี้ขณะที่อัตราดอกเบี้ยใกล้จะแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรสะท้อนว่าเรามาถึงจุดที่การประเมินว่าความจำเป็นที่จะคุมเข้มนโยบายต่อไปอีกเท่าใดนั้นยากขึ้น ดังนั้น ทั้งธนาคารกลางและตลาดการเงินจะอ่อนไหวมากเป็นพิเศษต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมา อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนอกสหรัฐฯ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจจำกัดการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์

สำหรับปัจจัยในประเทศ รมว.คลัง ได้ระบุไว้ว่าเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งแม้การส่งออกหดตัว โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะช่วยประคองภาคส่งออก ขณะที่กระทรวงการคลังมีแผนจะเปิดประมูลพันธบัตรช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. 66 รวมไม่เกิน 303,600 ล้านบาท โดยในระยะนี้กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าเงินบาทยังเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าและความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในไทย