ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมกับนายแอนดรูว์ ตัน กรรมการผู้จัดการ กลุ่มซิลเวอร์เลค แอ็คซิส จำกัด นายจยูรี่ ลาดิท ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มซิลเวอร์เลค ซิมมิทรี จำกัด และนายพรชัย กรัยวิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) เปิดการประชุมโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มระบบงานหลักของธนาคาร (EXIM Core Banking) ยกระดับการให้บริการเพื่อก้าวสู่การเป็น Digital Banking พร้อมเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ในตลาดโลก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

ในการพัฒนาระบบ EXIM Core Banking ครั้งนี้ EXIM BANK จะนำนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานสถาปัตยกรรมชุดใหม่ รองรับการเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud Technology) โดยพัฒนาระบบการให้บริการด้านสินเชื่อ เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและงวดเงิน การเรียกเก็บดอกเบี้ย การเปิด/ปิดบัญชีเงินฝาก การตรวจสอบยอด การทำรายการ Cashier Cheque รวมทั้งบริการอื่น ๆ ของธนาคาร พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงระบบ (Application Programming Interface : API) กับระบบรอบนอก เช่น Open API หรือ REST API รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายพันธมิตรภายนอกของธนาคาร เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกหลายมิติได้แบบเรียลไทม์ ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถเข้าถึงข่าวสารและบริการทางการเงิน โดยเฉพาะแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างโอกาสในการขยายตลาดไปต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทย

“การพัฒนาระบบงาน Core Banking และการปรับปรุงสถาปัตยกรรมระบบด้านไอทีเป็น Cloud Technology เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ของ EXIM BANK ที่จะยกระดับการให้บริการที่เป็นเลิศให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและเศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งธุรกิจต้องอาศัยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันและสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งมากยิ่งขึ้น” ดร.รักษ์ กล่าว