นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 23 (23’d MSC) ร่วมกับ ดาโต ฮาจิ มูเอช จูอันดา ฮาจิ อับดุล ราชิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนา ประเทศเนการาบรูไนดารุสซาลาม ดร.สิติ นูร์บายา บาการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ดาโต้ ศรีตวน อิบราฮิม ตวน มาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำ ประเทศมาเลเซีย และ เอมี่ คอร์ รัฐมนตรีอาวุโสแห่งรัฐในกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐสิงคโปร์ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อรับรองผลการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 23 (4 กรกฎาคม 2565)

5 ประเทศอาเซียนตอนล่าง เตรียมรับมือหมอกควันข้ามแดน

นายอรรถพล  กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รายงานการดำเนินงานของแต่ละประเทศในการเตรียมพร้อมรับมือหมอกควันข้ามแดนในอาเซียนตอนล่าง ซึ่งประเทศไทยได้มีการเตรียมดำเนินงานเพื่อป้องกันไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่ภาคใต้ และการรับมือสถานการณ์และแก้ไข ปัญหาหมอกควันข้ามแดน รวมถึงการใช้แบบจำลองคาดการณ์สถานการณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้า 7 วันในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2565 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณากลยุทธการจัดการป่าพรุในพื้นที่อาเซียนตอนล่าง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟจากป่าพรุโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้มีการจัดการอย่างยั่งยืนต่อไป

นายอรรถพล  กล่าวว่า ในช่วงเดือน กรกฎาคม – กันยายน ของทุกปี เป็นช่วงหน้าแล้งของภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง มีโอกาสเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุ ทั้งป่าพรุภายในประเทศและป่าพรุบริเวณเกาะสุมาตรา ซึ่งสถานการณ์ไฟป่าดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง และเพื่อเตรียมความพร้อมภายในประเทศ  คพ.ได้จัดประชุมหน่วยงาน ทส.ในพื้นที่ภาคใต้ ในการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองภาคใต้ ปี 2565 โดยนายวราวุธ ได้ให้นโยบายให้ทุกหน่วยงานกำหนดแผนและร่วมมือร่วมใจในการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการเฝ้าระวังไฟไหม้ป่าพรุ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและการท่องเที่ยว