โครงการพลิกโฉมเมืองอัจฉริยะของกรุงวอชิงตันดีซี จะได้รับการสนับสนุนจากระบบควบคุมไฟถนน inteliLIGHT® รวมกัน 75,000 จุด โดยโครงการมูลค่า 309 ล้านดอลลาร์นี้จะช่วยลดการใช้พลังงานได้กว่า 50% ทั้งยังเพิ่มคุณภาพบริการ และขยายความครอบคลุมของไวไฟในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ให้บริการเต็มที่ปัจจุบัน แผนกงานซ่อมบำรุงรักษาเขตโคลัมเบียต้องให้พลเมืองติดต่อแจ้งปัญหาไฟถนนไม่ทำงานโดยตรง เนื่องจากระบบไฟเขตเมืองที่ใช้อยู่ในวอชิงตันนี้ใช้หลอดโซเดียมแบบเก่าที่กินไฟมาก ทั้งยังตรวจสอบและควบคุมจากระยะไกลไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป  วิสัยทัศน์ของกรุงวอชิงตันดีซีในการสร้างเมืองที่ฉลาด ปลอดภัย และประหยัดพลังงานกว่าเดิม ส่งผลให้สภาเทศบาลเมืองหันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีระบบไฟเขตเมือง และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้อนุมัติโครงการเพื่อเปลี่ยนไฟถนนทุกจุดในเมืองนี้เป็นเทคโนโลยีแอลอีดีที่ประหยัดพลังงานมากกว่า ทั้งยังตรวจสอบและควบคุมจากระยะไกลได้ โครงการดังกล่าวตั้งเป้าลดการใช้พลังงานให้ได้กว่า 50% พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุง และเอื้อให้เกิดชุมชนที่ปลอดภัยกว่าและเชื่อมโยงถึงกันมากกว่า

ในขั้นการปฏิบัติงานนั้น เอ็นจี นอร์ท อเมริกา (ENGIE North America) รับหน้าที่ออกแบบและก่อสร้าง ขณะที่บริษัทอีควอนส์ (EQUANS) เป็นผู้ให้บริการระบบไฟตลอด 15 ปีข้างหน้า ส่วนแฟลชเน็ต (Flashnet) เป็นผู้ให้บริการโซลูชันระบบไฟอัจฉริยะ ซึ่งประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ระบบสื่อสาร และซอฟต์แวร์ไฟถนนแอลอีดีแบบใหม่ในกรุงวอชิงตันดีซี จะใช้ตัวควบคุมระบบไฟถนนมาตรฐาน NEMA อย่าง inteliLIGHT® เพื่อใช้ควบคุมและตรวจสอบไฟแต่ละตัวจากระยะไกล ทั้งยังเปิดโอกาสให้ดูระบบไฟได้ทั้งเมือง และแจ้งเตือนไฟเสียได้แบบเรียลไทม์ โครงการดังกล่าวจะใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมไฟถนนของ inteliLIGHT ในการบริหารจัดการระบบไฟ พร้อมใช้การเชื่อมต่อเอพีไอเพื่อผนวกรวมเข้ากับซอฟต์แวร์ซ่อมบำรุงและบริหารจัดการบุคลากรที่ใช้อยู่เดิม

ความปลอดภัยด้านการสื่อสาร ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของโครงการนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเมืองหลวงของสหรัฐ โดยทางทีมงานได้ตัดสินใจใช้การเชื่อมต่อเกรดผู้ให้บริการเครือข่ายแบบ NB-IoT / LTE-M ที่ใช้กันอยู่แล้ว พร้อมระบบต่อสัญญาณใหม่ (cellular fallback) ที่รองรับผู้ให้บริการได้หลายราย เพื่อให้เกิดรีดันแดนซ์ (redundancy) และการเชื่อมต่อแบบจ่ายล่วงหน้าตลอด 15 ปี ไม่ให้ต้องเสียค่าดำเนินการเพิ่มจากเดิม  เครือข่ายไฟถนนจะมีระบบรองรับในช่วงกลางวันด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเสาไฟ โดยติดเร้าเตอร์ไวไฟและต่อสายตรงจากกริดได้ นับเป็นวิธีการที่ทำได้เร็วและใช้ต้นทุนน้อย เพื่อขยายการใช้งานเมืองอัจฉริยะทั่วทั้งเมือง

คุณโลรองด์ โมเซส (Lorand Mozes) ซีอีโอของแฟลชเน็ต กล่าวว่า “ระบบไฟถนน inteliLIGHT ให้ประโยชน์มากกว่าแค่เป็นแสงส่องสว่าง เรามีความภาคภูมิใจในการนำเสนอความสามารถของเราในกรุงวอชิงตันดีซี สิ่งนี้เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับแฟลชเน็ตในอเมริกาเหนือ โดยเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อให้ทั้งเมือง และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรุ่นหลัง”