“บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI ประกาศผลการดำเนินงานปี 2566 เติบโตแข็งแกร่ง ทำรายได้จากการขายและบริการ 627.68 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 78.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% และ 111% ตามลำดับ เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 2566 อัตรา 0.055 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 เมษายนนี้ ส่วนปี 2567 วางเป้าหมายดันรายได้เติบโต 20% จากรายได้มอเตอร์โชว์ที่เพิ่มขึ้นและการขยายธุรกิจใหม่ในปีนี้

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 (ตามงบการเงินรวม) มีรายได้จากการขายและบริการทั้งสิ้น 627.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 576.45 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 78.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 37.20  ล้านบาท และเป็นตัวเลขกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 4 ปีนับจากปี 2563 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งปัจจัยมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดสรรพื้นที่ภายในฮอลล์เพื่อเพิ่มพื้นที่บูธจัดแสดงยานยนต์ การขยายธุรกิจใหม่ เช่น การจัดแฟนมีตติ้ง เป็นต้น และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแก่ผู้ประกอบการยานยนต์ รวมถึงการให้บริการงานพิมพ์อยู่ในระดับที่ดีจากการฟื้นตัวของภาพรวมการท่องเที่ยว เช่น งานพิมพ์โบชัวร์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 จึงมีมติเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรสะสมเพื่อจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมแก่ผู้ถือหุ้น  ในอัตราหุ้นละ 0.055 บาท รวมเป็นเงิน 33 ล้านบาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย  XD ในวันที่ 5 เมษายน 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 เมษายน 2567 และจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 เมษายน 2567 พร้อมทั้งเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 รับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 จากผลการดำเนินงานเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.065 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 39 ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นแล้วเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566

ขณะที่การดำเนินธุรกิจปี 2567 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการเติบโต 15 – 20% จากปีก่อน โดยจะมาจากการการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 (ครั้งที่ 45) ในวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มพื้นที่บูธแสดงยานยนต์และขยายพื้นที่จัดงานอีก 1 ฮอลล์ นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายธุรกิจใหม่สู่การจัดอีเวนต์ประเภทอื่นๆ เช่น การจัดสปอร์ตอีเวนต์โดยร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์จัดการแข่งขันวิ่งและไตรกีฬา เป็นต้น และการขยายธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์แอนด์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น งานแฟนมีตติ้งศิลปินต่างประเทศ, ร่วมทุนพาร์ทเนอร์รุกธุรกิจผลิตละคร เป็นต้น รวมถึงการขยายธุรกิจตกแต่งรถและธุรกิจดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต