ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจร่วมชมสุดยอดผลงานวิจัยที่มีมากกว่า 300 ผลงานที่นำมาจัดแสดงภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 พร้อมร่วมรับฟังการสัมมนาในหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับการรองรับโรคอุบัติใหม่
ตลอดทั้งวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการจัดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 ครั้งที่ 15

ภายใต้แนวคิด วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนโดยมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ให้ความสนใจเข้าชมสุดยอดผลงานวิจัยที่นำมาจัดแสดงมากกว่า 300 ผลงานอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด นอกจากภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการสำคัญมากมายแล้ว ยังมีการจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ในหัวข้อสำคัญ เพื่อรองรับโรคอุบัติใหม่ (covid 19) และการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal การถ่ายทอดเทคนิคกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย ซึ่งกิจกรรมสัมมนา เรื่อง เมื่อโลกเผชิญกับโรคอุบัติใหม่ : วิจัยและนวัตกรรม เป็นคำตอบสุดท้ายที่คาดหวัง เป็นอีกเวทีน่าประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังด้วย

งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 ครั้งที่ 15โดยช่วงหนึ่งของการเสวนา นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการความร่วมมือกันเต็มที่ที่จะเร่งการวิจัยหาสารที่มาช่วยสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัสโควิด19 ซึ่งองค์ความรู้ด้านการวิจัยเป็นส่วนสำคัญมากในการตรวจวินิจฉัยโรค การเฝ้าระวังดูแลควบคุม เพื่อหาแนวทางกำหนดนโยบายในการควบคุมโรคเพื่อดูแลสุขภาพที่ดีประชาชน

งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 ครั้งที่ 15นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการผลิตและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ด้วยว่า ในการดำเนินการประกอบด้วย 3 แนวทาง ทั้ง การวิจัยพัฒนาในประเทศทำความร่วมมือวิจัยกับต่างประเทศ และจัดซื้อจัดหามาใช้ในประเทศ ซึ่งขณะนี้ผลการวิจัยวัคซีนโควิด ในสัตว์ทั้งหนูและลิงมีความคืบหน้าไปมากและในระยะต่อไปก็เตรียมพร้อมที่จะทดสอบในมนุษย์ ซึ่งจะต้องดูทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดีหรือไม่ ที่สำคัญต้องเป็นภูมิคุ้มกันที่สามารถทำลายฤทธิ์ของเชื้อโควิคได้ สำหรับโอกาสแนวทางในการพัฒนาด้านการวิจัย ต้องจัดให้มีทุนวิจัยที่เพียงพอต่อเนื่อง รวมทั้งจัดระบบให้ทุน บริหารทุน อย่างโปร่งใส นำไปสู่การผลิตที่ติดตามตรวจสอบได้ ทั้งนี้ประชาชนที่สนใจยังสามารถร่วมงานได้จนถึงวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 และชั้น 23 เซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพฯ