งานสัมมนายิ่งใหญ่แห่งปี “ไข่ผำ-จิ้งหรีด” ตัวแทนพืชและแมลง โปรตีนแห่งอนาคต ซุเปอร์ฟู้ดจากธรรมชาติ แหล่งอาหารชั้นดี สามารถสร้างอาชีพและทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงได้อย่างมหาศาล จัดโดยกรมประมง และนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ณ ห้องประชุม อาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม

คุณเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเวทีด้วย Special Talk ในหัวข้อ “ซุปเปอร์ฟู้ดจากธรรมชาติ อาหารแห่งอนาคต” กล่าวว่า ประชากรเกือบ 193 ล้านคน ใน 53 ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาความไม่มั่นคง ด้านอาหารอย่างเฉียบพลัน จากภาวะสงคราม สภาวะโลกร้อน (Global Warming ) ทำให้เกิดวิกฤตอาหารโลก “อาหารแห่งอนาคต” เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างแหล่งอาหารใหม่ที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้เร็วกว่า ใช้พื้นที่เพาะเลี้ยงน้อยกว่า เปิดโอกาสแตะเงินล้านด้วยธุรกิจอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ที่ดีต่อใจ – ดีต่อสุขภาพ – ดีต่อโลก อาหารแห่งอนาคต (Future Food Policy) เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศไทย ตลอดห่วงโซ่เกษตรและอาหาร เป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกในยุค New Normal

ดร.สมบัติ สิงห์สี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอุดรธานี (ศพจ.อุดรธานี) กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด กรมประมง กล่าวบนเวทีในหัวข้อ “การเพาะเลี้ยงไข่ผำ สร้างรายได้” ว่า ประเทศไทยมีไข่ผำมากถึง 37 ชนิด ส่วนใหญ่ที่พบ คือ ชนิด W. arrhiza และ W. globosa การสืบพันธุ์ของไข่ผำมี 2 แบบ คือ 1.การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ใช้เวลานานและคุณสมบัติของน้ำมีความเหมาะสม 2.การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ใช้วิธีแตกหน่อให้ต้นใหม่ ส่วนใหญ่นิยมนำไข่ผำมาบริโภค ใช้เป็นอาหารเสริมสัตว์น้ำ ร้อยละ 10 ในอาหารเม็ดสำเร็จรูปเพื่อเลี้ยงปลานิลแดง ส่งผลให้ปลามีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และเลี้ยงไข่ผำเพื่อบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

ส่องเทรนด์อาหารแห่งอนาคต "ไข่ผำ-จิ้งหรีด"  ซุเปอร์ฟู้ดจากธรรมชาติ  ประโยชน์มากกว่าที่คิดด้าน ดร.รุจิเรข น้อยเสงี่ยม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวบนเวทีในหัวข้อ “การเข้าใจ เข้าถึง นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food)” ว่า จิ้งหรีด เป็น “แหล่งโปรตีนทางเลือก” ที่ใช้ทรัพยากรน้อย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โปรตีนเฉลี่ยสูงกว่าเนื้อสัตว์ ในปี2565 จิ้งหรีดมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 14,000ล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ย ที่ 28.6% คาดว่า ปี 2573 ตลาดจิ้งหรีดจะมีมูลค่า 144,000 ล้านบาท เพราะมีผู้บริโภคในทุกภูมิภาค

คุณกมลวรรณ รุ่งประเสริฐวงศ์ เกษตรกรเพาะเลี้ยงไข่ผำ จังหวัดกาญจนบุรี ขึ้นกล่าวบนเวทีในหัวข้อ “ไข่ผำ Super foods ของโลก เพาะเลี้ยงง่าย สร้างเงินแสน” ว่า ไร่แสงสกุลรุ่ง เลี้ยงไข่ผำระบบปิดในลองซีเมนต์ พร้อมเติมธาตุอาหารด้วยน้ำหมักปลาที่เป็นสารชีวภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์กับไข่ผำ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มจากเตรียมลองซีเมนต์ให้พร้อม ใส่น้ำลงไปพร้อมเติมธาตุอาหารและใส่พันธุ์ผำลงไป ครบ 1 สัปดาห์ ปล่อยน้ำพร้อมทำความสะอาดให้เรียบร้อย พร้อมปล่อยผำลงไปใหม่ ครบ 2 สัปดาห์จึงช้อนผำนำมาแปรรูป สร้างเพิ่มมูลค่าในรูปแบบ ข้าวเกรียบผำ ขนมปังกระเทียมไข่ผำ ทองแผ่นผำ ฯลฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร. 091- 7536491 (แสบ), 084-8948765 (มาดามผำ)

และปิดท้ายเวทีด้วย คุณบัญชร นามธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามสิบสอง อินโนเวท จำกัด พูดคุยในหัวข้อ “เลี้ยงจิ้งหรีดอย่างมืออาชีพ 2 ปี คืนทุน 3 ปี ทำกำไร” กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเลี้ยงจิ้งหรีดในแนวตั้ง ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ดูแลจัดการง่าย ผลิตจิ้งหรีดได้มากกว่าการเลี้ยงแบบทั่วไป ประมาณ 3 เท่า ในพื้นที่การเลี้ยงที่เท่ากัน ปัจจุบันทางฟาร์มสามารถผลิตจิ้งหรีด2,000 – 2,500 ก.ก.ต่อเดือน ในพื้นที่ 400ตารางเมตร ผลิตมูลจิ้งหรีด 3,000-4,000 ก.ก.ต่อเดือน ลงทุน อย่างมืออาชีพ 2 ปี คืนทุน 3 ปี ทำกำไร สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 081697-3539 หรือเพจเฟซบุ๊ก : 32 BUG FARM