การแบ่งปันทุนการศึกษาแม้เพียงเล็กน้อยจากผู้ใหญ่ใจดีกับมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสคนหนึ่งตลอดไป และในวันนี้ยังมีนักเรียนที่ด้อยโอกาสจากภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยอีก 4,403 คน ที่ยังรอคอยด้วยความหวังสำหรับโอกาสทางการศึกษาในปีการศึกษา 2566 ซึ่งจะปิดรับบริจาคภายใน 30 มิถุนายนนี้
เด็กชายสุทิวัส หรือแบงค์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านกุดโง้งดงสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ กำลังรอรับทุนการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่าว่า “ผมอาศัยอยู่กับปู่ย่า และย่าทวดที่ป่วยและเดินไม่ได้ครับ ส่วนพ่อแม่ไปรับจ้างที่จังหวัดจันทบุรีและนาน ๆ ที ถึงจะส่งเงินมาและกลับมาเยี่ยมบ้าน ปรกติปู่กับย่าจะออกไปรับจ้างขับรถขนส่งของ แต่ไม่ค่อยมีคนจ้างเนื่องจากอายุมากและสายตาไม่ค่อยดี ที่บ้านจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาบ้างในช่วงเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังวันละ 250 บาท แต่ก็ไม่ทุกวัน ช่วงโรงเรียนเปิดเรียนวันไหนปู่ย่าต้องออกไปทำงาน ผมก็จะขออนุญาตครูกลับบ้านช่วงพักเที่ยงเพื่อไปเตรียมข้าวและยาไว้ให้ย่าทวด หลังกลับจากโรงเรียนผมก็ช่วยงานบ้านและนั่งนวดขาให้ย่าทวดเพราะย่าทวดปวดขา ในวันหยุดผมก็ไปรับจ้างทำงานที่ร้านมอเตอร์ไซต์เพื่อเป็นเงินออมเก็บไว้ไปโรงเรียนได้ค่าจ้างวันละ 50 บาท ผมอยากได้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระปู่ย่าเพราะท่านอายุมากแล้ว หากได้รับทุนการศึกษาผมจะใช้เงินทุนการศึกษาอย่างคุ้มค่าที่สุดและเกิดประโยชน์มากที่สุด และยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผมได้ว่าจะได้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 หลังจากนั้นผมจะเดินตามความฝันของตนเองเรียนต่อสายอาชีวะด้านช่างกลยานยนต์ เพื่อว่าจบมาจะได้ไปทำงานในโรงงาน เลี้ยงดูปู่ย่าและย่าทวด และเก็บเงินมาเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ของตนเองในอนาคตครับ”
เด็กหญิงวิสุทธิดา หรือแพน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองบัวไชยวาน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขอรับทุนการศึกษาประเภทนักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปรกติเล่าว่า “หนูมีนิ้วมือไม่ครบเนื่องจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก หูหนวก และพูดไม่ได้ค่ะ หนูอาศัยอยู่กับพ่อและน้องสาวส่วนแม่ไปมีครอบครัวใหม่ พ่อของหนูมีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีรายได้ไม่แน่นอน แม้ว่าหนูจะมีปัญหาการได้ยินและพูดไม่ได้ แต่หนูก็มีเพื่อน ๆ และครูคอยช่วยเหลือ ครูสอนให้หนูอ่านปากครูเวลาครูสอนพร้อมแสดงท่าทางประกอบการสอน รวมถึงใช้ภาษามือสื่อสารกับหนู ช่วยให้หนูเข้าใจการเรียนได้ดียิ่งขึ้น หนูชอบเรียนวิชาการงานอาชีพและชอบวาดระบายสีเพราะช่วยให้มีสมาธิและผ่อนคลาย โตขึ้นหนูอยากเป็นช่างตัดผมเพราะเป็นอาชีพที่ผู้พิการสามารถทำได้จะได้ดูแลพ่อและน้องต่อไป หลังกลับจากโรงเรียนหนูช่วยทำงานบ้านต่าง ๆ เพื่อผ่อนแรงพ่อค่ะ หนูขอสัญญาว่าหากได้รับทุนการศึกษา หนูจะใช้ทุนการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเรียนอย่างคุ้มค่าที่สุดค่ะ”
นายกรวิชญ์ หรือกร ที่ขอรับทุนการศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 จากโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า “ผมอาศัยอยู่กับปู่ย่า พ่อ และน้องสาว ปู่ย่ามีอาชีพทำนา และรับจ้างตัดเสื้อผ้าในหมู่บ้าน ปู่มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและต้องไปหาหมอเป็นประจำ ส่วนพ่อทำงานไม่ได้เพราะเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ ปู่กับย่าจึงต้องทำงานหนักเพื่อส่งเสียผมและน้องสาวให้ได้เรียนหนังสือ ผมกับน้องจึงตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี และช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ผมอยากเรียนต่อสายอาชีพเพื่อจะได้มีวิชาชีพเพื่อใช้หางานทำ ส่งเสียน้อง และดูแลพ่อ ปู่และย่าให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้ ดังนั้นผมจึงสมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF เพื่อขอโอกาสเรียนต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ครับ”
ทางด้านนายสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เปิดเผยว่า “มูลนิธิ EDF ขอขอบคุณองค์กรต่าง ๆ และผู้บริจาคทุกท่านที่เห็นความสำคัญของการศึกษาที่จะมีส่วนช่วยเปลี่ยนชีวิตและอนาคตของนักเรียนด้อยโอกาสไปตลอดกาล ขณะนี้มูลนิธิ EDF ยังเปิดรับการสนับสนุนทุนการศึกษาปีการศึกษา 2566 สำหรับนักเรียนด้อยโอกาสจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศอีก 4,403 คน ไปจนถึง 30 มิถุนายน ศกนี้”
“ตั้งแต่ที่มูลนิธิเปิดขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษา 2566 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าตัวเลขเมื่อ 12 เมษายน ที่ผ่านมา มูลนิธิสามารถจัดสรรทุนการศึกษาให้นักเรียนด้อยโอกาสระดับชั้นต่าง ๆ ไปได้แล้ว 5,350 ทุน แบ่งเป็นทุนการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น 4,555 ทุน ทุนการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย/อาชีวศึกษา 353 ทุน ทุนการศึกษานักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปกติ 265 ทุน ทุนการศึกษานักเรียนกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 162 ทุน และทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา 15 ทุน”
องค์กรหรือผู้ที่สนใจบริจาคทุนการศึกษาให้นักเรียนด้อยโอกาสร่วมกับมูลนิธิ EDF สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านระบบ E-Donation กรมสรรพากร หรือบริจาคออนไลน์ที่ www.edfthai.org หรือโอนเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคาร “มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (มูลนิธิ EDF)” บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สาขางามวงศ์วาน เลขที่บัญชี 319-2-77744-8 ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 161-4-56698-0 ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 070-2-45369-0 ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 980-7-59891-5 หรือธนาคารทีทีบี เลขที่บัญชี 069-2-41110-1 หรือแอปพลิเคชันของทุกธนาคาร หลังจากนั้นส่งสำเนาหรือภาพถ่ายสลิปการโอนเงินพร้อมรายละเอียดเพื่อออกใบเสร็จรับเงินบริจาคไปที่อีเมล [email protected] โทรสาร 02-940-5266 หรือ LINE @edfthai หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 02-579-9209-11 (จันทร์-ศุกร์ 09.00-16.30 น.) ทั้งนี้การบริจาคหรือทำกิจกรรมผ่านมูลนิธิ EDF สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
สำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลของประเทศไทยลำดับที่ 255 ที่เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ พ.ศ.2530 โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ในโรงเรียนและชุมชนร่วมกับหน่วยงานที่สนใจ มูลนิธิ ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศและได้รับรางวัล เช่น รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทย ประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ ประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่จดทะเบียนถูกต้อง มีรายงานการเงินประจำปีที่มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ เงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธินำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใสจากสมาคมกิฟวิ่ง แบค รางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะหน่วยงานที่ทำความดีอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม และรางวัลคนดีต้นแบบคุณธรรมไทยจากสมาคมสหพันธ์คนพิการในประเทศไทย เป็นต้น