มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเสรีนักศึกษาแต่งกายตามเพศวิถี อนุญาตให้นักศึกษาแต่งเครื่องแบบนักศึกษาชายและหญิงตามอัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด รวมทั้งการเข้าร่วมพิธีการต่างๆ ภายใต้ระเบียบที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด เริ่มมีผลปฏิบัติวันนี้ (29 พ.ค. 64) พร้อมมีแผนจัดทำห้องน้ำสำหรับเพศที่ 3 ตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิของความเป็นมนุษย์มิให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ..ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีความรู้ด้านกฏหมายทั้5 วิทยาเขต เพื่อพิจารณาร่างประกาศตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.) ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยได้มีมติเห็นชอบประกาศเรื่อง แนวปฎิบัติการแต่งกายของนักศึกษาตามเพศสภาพหรือเพศภาวะ หรืออัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด พ.ศ.2564 โดยเป็นการสมควรกำหนดแนวปฏิบัติการแต่งกายของนักศึกษาตามเพศสภาพหรือเพศภาวะหรืออัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและคุ้มครองมิให้เกิดการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.. 2559 ประกอบกับข้อ 7 ของข้อบังคับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่าด้วยเครื่องแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2560 โดยประกาศนี้มีผลบังคับใช้ 29 พ.ค. นี้ หรือนับตั้งแต่วันถัดจากประกาศเป็นต้นไป ดังนี้ผศ.สุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.)

1.ให้นักศึกษามีสิทธิแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษาที่ใช้เป็นปกติ ในข้อบังคับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่าด้วยเครื่องแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2560 ตามเพศสภาพหรือเพศภาวะหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตนได้

2.นักศึกษายังมีสิทธิแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษาในงานพิธี เช่น การรับปริญญา ประกาศนียบัตรดุษฎีบัณฑิต และประกาศนียบัตรมหาบัณฑิต ในข้อบังคับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ว่าด้วยเครื่องแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ.2560 ตามเพศสภาพหรือเพศภาวะ หรืออัตลักษณ์ทางเพศของตนได้

3.นักศึกษามีสิทธิแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษาเฉพาะกรณี เว้นแต่การแต่งกายของนักศึกษาในรายวิชาปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อกำหนดการแต่งกายของคณะนั้นๆ เช่น คณะแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้น

กรณีที่มิได้กำหนดไว้ หรือที่กำหนดไว้ไม่ชัดเจนในประกาศนี้ หรือในกรณีที่มีความจำเป็นต้องผ่อนผันข้อกำหนดในประกาศนี้เป็นกรณีพิเศษ ให้อธิการบดีมีอำนาจตีความวินิจฉัยและให้ถือเป็นที่สุด สำหรับการแต่งเครื่องแบบนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้เป็นไปตามภายใต้ระเบียบของทางมหาวิทยาลัยกำหนด ในกรณีที่เครื่องแบบนักศึกษาหญิงที่ประสงค์จะใช้ผ้าคลุมศีรษะต้องเป็นผ้าคลุมสีขาวเกลี้ยง ไม่มีลวดลาย

ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวตอกย้ำ ม.. ให้ความสำคัญสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิของความเป็นมนุษย์มิให้เกิดการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

ผศ.สุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นักศึกษาได้ยื่นเรื่องให้ทางมหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูลบนบัตรประจำตัวนักศึกษา เพื่อให้มีความเท่าเทียมทางเพศ โดยเสนอแนะให้ยกเลิกคำนำหน้าชื่อบนบัตรประจำตัวนักศึกษาและภาพถ่ายนักศึกษา ตลอดจนสามารถแต่งเครื่องแบบนักศึกษาตามเพศสภาพซึ่งไม่ตรงกับเพศกำเนิดนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในส่วนของบัตรประจำตัวนักศึกษา โดยไม่มีการระบุคำนำหน้าชื่อของนักศึกษาแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนจัดทำห้องน้ำสำหรับนักศึกษาเพศที่ 3 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และสร้างความสบายใจแก่นักศึกษา

เพศสภาพถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคม โดยกฏหมายอนุญาตให้ดำเนินการและกระทำได้ ซึ่งในฐานะที่มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานราชการ ต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตามกฏหมายในการให้สิทธิความเท่าเทียมกันของบุคคล ซึ่งนักศึกษาทุกคนมีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์เท่ากัน อีกทั้งนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยจะกลายเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพในตลาดแรงงาน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้นักศึกษากลุ่มนี้สามารถใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้โดยไม่มีความกดดัน มีอิสระเสรีในการแสดงออกจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพื่อส่งเสริมความพร้อมรอบด้านทั้งวิชาการ ร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งผศ.สุพจน์ กล่าว