กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait หรือ ECW) ซึ่งเป็นกองทุนสนับสนุนการศึกษาในภาวะฉุกเฉินขององค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกสนับสนุนเงินทุนฉุกเฉิน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่กองทุนและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อช่วยเหลือเด็ก 20 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้าโครงการเคส ฟอร์ อินเวสต์เมนต์ (Case for Investment) และแผนยุทธศาสตร์ปี 2566-2569 (2023-2026 Strategic Plan) ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่ โดยได้มีการจัดสรรเงินทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่วยเหลือเด็กโดยตรงเกือบ 7 ล้านคนนับตั้งแต่ริเริ่มขึ้นในปี 2559 รวมทั้งเข้าถึงเด็กอีก 31.2 ล้านคนผ่านการให้ความช่วยเหลือด้านโควิด-19 ผลการวิเคราะห์ล่าสุดจากกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินแสดงให้เห็นว่า เด็กหญิงและเด็กชายที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตมากถึง 222 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาอย่างเร่งด่วน โดยในจำนวนนี้มีมากกว่า 78 ล้านคนที่ต้องออกจากโรงเรียน ขณะที่ราว 120 ล้านคนยังเรียนหนังสืออยู่ แต่ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำในวิชาคณิตศาสตร์หรือการอ่าน
บรรดาผู้นำ ผู้บริจาค และผู้สนับสนุนระดับโลกต่างเข้าร่วมแคมเปญ 222 ล้านความฝัน หรือ #222MillionDreams ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน เพื่อปูทางไปสู่การประชุมด้านการเงินระดับสูง (High-Level Financing Conference) ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่นครเจนีวา
นายอิกนาซิโอ กัสซิส (Ignazio Cassis) ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส กล่าวสนับสนุนแคมเปญ#222MillionDreams ว่า “แม้ว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่การศึกษาในภาวะฉุกเฉินกลับไม่เคยได้รับเงินทุนเพียงพอ ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”รายงานผลการดำเนินงานประจำปี (Annual Results Report) ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ระบุว่า สงครามในยูเครน การถูกบังคับให้พลัดถิ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ความอดอยากทั่วภูมิภาคซาเฮลและแอฟริกาตะวันออก รวมถึงวิกฤตการณ์อื่น ๆ ส่งผลให้ความต้องการเงินทุนสนับสนุนการศึกษาในภาวะฉุกเฉินพุ่งแตะ 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า
คุณแยสมิน เชริฟ (Yasmine Sherif) ผู้อำนวยการกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า “การลงทุนของเราคือการลงทุนเพื่อมนุษยชาติ โดยเป็นการเรียกร้องร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และเป้าหมายด้านสิทธิมนุษยชนในระดับสากล”โครงการเคส ฟอร์ อินเวสต์เมนต์ ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ได้สรุปข้อเสนอในการ “สร้างโลกที่เด็กและวัยรุ่นทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีความปลอดภัย และปราศจากความกลัว” รวมถึงระบุรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับความพยายามของกองทุนในการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มีส่วนร่วมกับภาคเอกชน สร้างความเท่าเทียมทางเพศ เรียกร้องการสนับสนุนทางการเมือง ตลอดจนยกระดับการให้ความช่วยเหลืออย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อเข้าถึงผู้ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังมากที่สุด
คุณอลิเซีย เฮอร์เบิร์ต (Alicia Herbert) ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า “การลงทุนด้านการศึกษาคือการลงทุนเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรือง จึงกล่าวได้ว่าการศึกษาคือการลงทุนเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง”หากท่านต้องการสร้างความแตกต่าง สามารถช่วยกันเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกลงมือทำได้ด้วยการใช้แฮชแท็ก #222MillionDreams หรือบริจาคด้วยตัวเองให้กับกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน