วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันฟีฟ่า เวิลด์คัพ ประจำปี 2565 (FIFA World Cup 2022™) การประชุมพันธมิตรระดับโลกไฮเซ่นส์ (Hisense Global Partner Conference) ที่กาตาร์ ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยพันธมิตรของไฮเซ่นส์จากทั่วโลกได้ผนึกกำลังกันในงานนี้ เพื่อเตรียมพร้อมเดินทางไปสู่อีกขั้นของการพัฒนา ขณะเดียวกันคุณเจี้ยน โจว (Jian Zhou) เอกอัครราชทูตจีนประจำรัฐกาตาร์ และคุณนิค บราวน์ (Nick Brown) รองประธานอาวุโสฝ่ายความร่วมมือทางการค้าของฟีฟ่า ได้มาเข้าร่วมในงานนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งอวยพรอย่างอบอุ่นให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

ไฮเซ่นส์ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในตลาดโลก

ในการประชุมครั้งนี้ ดร.หลัน หลิน (Lan Lin) ประธานกรรมการบริษัทไฮเซ่นส์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “To Be the Top Player” (สู่ความเป็นที่สุดในอุตสาหกรรม) โดยในสุนทรพจน์นี้ ดร.หลินยินดีอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่า ไฮเซ่นส์มีภาพลักษณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในของศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ และได้เน้นย้ำถึงการเติบโตอย่างมั่นคงตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาด้วย จากคำกล่าวของดร.หลิน ความแข็งแกร่งและศักยภาพทางการแข่งขันของไฮเซ่นส์ได้เติบโตขึ้นไปอีกขั้น โดยรายได้จากยอดขายเบื้องต้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 สู่ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ นอกจากนี้ จากข้อมูลของอิปซอสส์ (Ipsos) อุตสาหกรรมระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง (B2B) ยังค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นภาคส่วนใหม่สำหรับธุรกิจในระดับสากลของไฮเซ่นส์ ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ของไฮเซ่นส์ด้วยอัตราการเติบโต 10% ต่อปี จุดเด่นอีกประการหนึ่งของความสำเร็จของไฮเซ่นส์อยู่ที่ความสามารถในการปฏิบัติการที่ได้รับการยกระดับ โดยไฮเซ่นส์ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นและปรัชญาการบริหาร จนประสบความสำเร็จในการตั้งบริษัทในต่างประเทศ 66 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 23 แห่ง และฐานการผลิต 31 แห่ง นับเป็นความสำเร็จอย่างถล่มทลายในตลาดโลก

ไฮเซ่นส์ยึดมั่นในความแน่วแน่สู่การเข้าถึงทั่วโลก

เพื่อกระตุ้นการพัฒนาในระดับโลกของไฮเซ่นส์ ดร.หลินยังได้นำเสนอ 3 วิสัยทัศน์แห่งอนาคตของไฮเซ่นส์ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญคือการนำพาภาพลักษณ์แบรนด์ของไฮเซ่นส์ขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น ด้วยการดันดัชนีชี้วัดแบรนด์ระดับโลกให้เหนือกว่า 100 ภายใน 3 ปี ดังที่ดร.หลินได้กล่าวไว้ เพียงแค่ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็สามารถช่วยให้ไฮเซ่นส์เติบโตกลายเป็นแบรนด์มีชื่อและรับประกันการพัฒนาที่มั่นคงได้ และเพื่อสิ่งนี้ ไฮเซ่นส์เตรียมยกระดับการลงทุนในผลิตภัณฑ์เพื่อขัดเกลาการทำงานและยกระดับประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เพื่อที่จะก้าวให้ทันเทรนด์ระดับโลกได้ดียิ่งขึ้น ไฮเซ่นส์ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตทั่วโลกด้วยการกำหนดเส้นโค้งการเติบโตเส้นที่สอง และดังที่ดร. หลินได้เน้นย้ำไว้ว่า ธุรกิจนี้ควรคำนึงถึงกับคำ 2 คำนี้ นั่นคือ ความอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสัญญาณว่าไฮเซ่นส์จะเดินหน้าต่อไปด้วยกลยุทธ์ “Smart Home” (บ้านอัจฉริยะ) และผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและปลอดคาร์บอน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ดร. หลินเสนอว่า ไฮเซ่นส์จะปรับปรุงตัวเองให้เป็นบริษัทที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไฮเซ่นส์จะพัฒนากลยุทธ์การเติบโตรูปแบบใหม่โดยดึงดูดสุดยอดผู้ที่มีความสามารถเพื่อสร้างสุดยอดผลิตภัณฑ์ การประชุมพันธมิตรระดับโลกได้ย้อนมองไปถึงเส้นทางสู่การเข้าถึงทั่วโลกของไฮเซ่นส์ อวดโฉมเทคโนโลยีแสดงผลใหม่ล่าสุด และแบ่งปันเป้าหมายร่วมกับเหล่าพันธมิตร และอีกหลายปีข้างหน้า ไฮเซ่นส์จะเพิ่มความพยายามในการก่อร่างสร้างแบรนด์ตัวเองให้กลายเป็นแบรนด์ระดับสากล โดยเพิ่มดัชนีมูลค่าแบรนด์ ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน และเดินหน้าปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นที่สุดของอุตสาหกรรมนี้