เนรมิตรรถจักรยานยนต์ TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION และ นาฬิกา BREITLING TRIUMPH EDITION TOP TIME CHRONOGRAPH  กรุงเทพฯ 22 กุมภาพันธ์ 2565 – ไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ประกาศการร่วมมือครั้งสำคัญที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นด้วยการนำรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ระดับชั้นนำ รุ่นสปีด ทวิน (Speed Twin) และ นาฬิกาไบร์ทลิ่งรุ่นท็อป ไทม์ (Top Time) อันโดดเด่น มาสร้างสรรค์เป็นรถจักรยานยนต์และนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน สำหรับปี 2022 ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์จะได้รับการออกแบบให้เต็มไปด้วยความพรีเมียมและเอกลักษณ์ที่สวยงามเฉพาะตัว โดยทั้งสองแบรนด์นับเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งในด้านความแม่นยำ คุณภาพ และสไตล์ ตลอดจนทั้งสองแบรนด์ต่างก็เป็นผู้สร้างนวัตกรรมอันโดดเด่นในแบบฉบับของตนเอง โดยไบร์ทลิ่ง (Breitling) เป็นแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟสมัยใหม่ ซึ่งผสมผสานกันได้อย่างลงตัวกับไทรอัมพ์ (Triumph) แบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างวิวัฒนาการของรถจักรยานยนต์อย่างไม่หยุดนิ่ง

ด้วยมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ และความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม สมรรถนะและความงามของทั้งสองแบรนด์ การร่วมมือครั้งใหม่นี้จึงเผยให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายร่วมกันของไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสมบูรณ์แบบของการเคลื่อนไหว เพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดย Triumph Breitling  อิดิชัน รุ่นพิเศษนี้เกิดขึ้นจากปรัชญาที่มีร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ ในการนำคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสไตล์ดั้งเดิม และพรสวรรค์ในการสร้างงานฝีมือที่ประณีต มาบรรจบกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน
(TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION)

ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่น่าจับตา!! ไทรอัมพ์ (TRIUMPH) และ ไบร์ทลิ่ง (BREITLING) เผยโฉมผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากความร่วมมือครั้งสำคัญ

 

ความงดงาม

  • การผสมผสานระหว่างสีโพลีโครมาติกบลู (Polychromatic Blue) อันมีสไตล์และโดดเด่นของไบร์ทลิ่ง เข้ากับสีดั้งเดิมของไทรอัมพ์รุ่นธันเดอร์เบิร์ด (Triumph Thunderbird) ปี 1951ได้อย่างลงตัว
  • รายละเอียดเส้นคาดตัวถัง (Coach Line) ที่วาดด้วยมือ
  • คุณสมบัติและการตกแต่งระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่:
    – หน้าเรือนไมล์แบบสั่งทำพิเศษที่ออกแบบมาจากดีไซน์ของนาฬิกา

– เบาะหนังสีดำเจาะรูที่มีเอกลักษณ์ พร้อมเย็บตะเข็บ

– รายละเอียดเครื่องยนต์ที่กลึงขึ้นรูปแบบ Billet

ความพรีเมียม

  • ระบบกันสะเทือนหลังใช้โช้คคู่สเปคสูงของ Öhlins แบบปรับได้ พร้อมสปริงสีดำเงาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นสปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง
  • การอัพเกรดสเปคทั้งหมดเช่นเดียวกับ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 เจนเนอเรชั่นล่าสุด อาทิ พละกำลังและสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เบรกสเปคสูงขึ้น ระบบบกันสะเทือนและยาง รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง อีกทั้งสไตล์และรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น

ความพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

  • จักรยานยนต์ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน มีจำนวนจำกัดเพียง 270 คัน ทั่วโลกเท่านั้น
  • รถแต่ละจะคันมีหมายเลขกำกับที่ปะกับแฮนด์เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • ใบรับรองพร้อมลายเซ็นของ มร.นิค บลอร์ (Nick Bloor) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ และ มร.จอร์จส เคิร์น (Georges Kern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบร์ทลิ่ง
  • โอกาสในการซื้อนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นพิเศษ ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ลิมิเต็ด อิดิชัน (Breitling Top Time Triumph limited-edition) พร้อมหมายเลขกำกับที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ตรงกันกับหมายเลขลำดับของรถ

ธีมสีโพลีโครมาติกบลู (Polychromatic Blue) ที่มีเอกลักษณ์และสวยงาม

เพิ่มเสริมความงดงามของหน้าปัดนาฬิกาสีฟ้าและสีดำ ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน รุ่นใหม่ ตัวรถจะถูกตกแต่งด้วยธีมสีโพลีโครมาติกบลูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด 6ที (Triumph Thunderbird 6T) ซึ่ง มาร์ลอนแบรนโด (Marlon Brando) ทำให้ไทรอัมพ์รุ่นนี้กลายเป็นตำนานที่เป็นอมตะจากภาพยนตร์นักขี่ชื่อดังเรื่อง ‘The Wild One’ ที่สร้างขึ้นในปี 1953

สำหรับการจับคู่สีทั้งสองนี้เป็นการจับคู่สีโดยใช้สเปกโตรกราฟจากสมุดตัวอย่างสีดั้งเดิมของไทรอัมพ์ที่อยู่ในโรงงานในปี 1950 โดยเลือกชิปสีดั้งเดิมของธันเดอร์เบิร์ดมาใช้ นอกจากนี้สีโพลีโครมาติกบลูยังเป็นสีที่ผสมขึ้นแบบคัสตอม และมีการลงสีด้วยมือ ซึ่งเป็นสีที่เข้ากับแถบสีเจ็ทแบล็กและคำว่า Breitling ที่อยู่บนตัวถัง อีกทั้งรถรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันนี้จะถูกเก็บรายละเอียดด้วยมืออย่างประณีต โดยฝีมือของ Gary Devine หัวหน้าทีมสีของไทรอัมพ์ ทั้งในบริเวณแผงด้านข้างและโคมไฟหน้าจะใช้สีเจ็ทแบล็ก (Jet Black) 

สเปคระดับพรีเมียม

รถรุ่นพิเศษนี้มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหลังคู่แบบปรับได้ของ Öhlins พร้อมสปริงโช้คสีดำเงา และมีสเปคที่ได้รับการอัพเกรดทั้งหมดเช่นเดียวกับ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 เจนเนอเรชั่นล่าสุด อาทิ พละกำลังและสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เบรกสเปคสูงขึ้น ช่วงล่างและยาง รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง สไตล์และรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น

รายละเอียดเครื่องยนต์ที่ไม่เหมือนใคร

ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน รุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน มาพร้อมคลัตช์อะลูมิเนียมที่กลึงขึ้นรูปแบบ Billet  อัลเทอร์เนเตอร์ตกแต่งและชุบผิวอะโนไดซ์สีเข้ม ซึ่งถูกสั่งทำเฉพาะสำหรับรุ่นไบร์ทลิ่ง อิดิชัน นอกจากนี้ยังมีการใส่โลโก้ Breitling อย่างประณีตที่ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น 

เบาะหนังพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

เบาะหนังสีดำเจาะรูพร้อมเย็บตะเข็บสีเทา เช่นเดียวกับสายนาฬิการุ่นไบร์ทลิ่ง อิดิชัน ที่มาพร้อมรายละเอียดลายนูนและการเย็บตะเข็บเดี่ยวสีดำ พร้อมปักตัวอักษร “B” ที่สื่อถึงแบรนด์ไบร์ทลิ่งอันหรูหราไว้ที่เบาะ

หน้าจอเรือนไมล์ ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน ที่ถูกสั่งทำพิเศษ

หน้าปัดของรถจักรยานยนต์ลิมิเตด อิดิชัน รุ่นนี้ ได้ถูกพัฒนาร่วมกับไบร์ทลิ่ง ซึ่งถูกออกแบบให้เข้ากับหน้าปัดนาฬิกาไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ที่มีสไตล์สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 270 คัน ทั่วโลก

ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน อิดิชันจะผลิตอย่างจำกัดเพียงแค่ 270 คันทั่วโลก โดยแต่ละคันจะมีหมายเลขกำกับที่ปะกับแฮนด์และจะมาพร้อมกับใบรับรองที่มีลายเซ็นของ มร.นิค บลอร์ (Nick Bloor) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์
มอเตอร์ไซเคิลส์ และ มร.จอร์จส เคิร์น (Georges Kern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบร์ทลิ่ง ซึ่งจำนวนรถ 270 คัน ถูกกำหนดตามองศาข้อเหวี่ยง 270 องศาของ เครื่องยนต์สูบคู่ สปีด ทวิน ที่ได้รับการยกย่อง นอกจากนี้ผู้เป็นเจ้าของ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน (Speed Twin Breitling Limited Edition) ทุกคนจะได้รับโอกาสพิเศษในการซื้อนาฬิกาโครโนกราฟรุ่น ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ (Breitling Top Time Triumph) พร้อมหมายเลขกำกับที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ตรงกับหมายเลขลำดับของรถ (เมื่อได้รับความต้องการของลูกค้าภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 จากเจ้าของคนแรก) 

 

ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ โครโนกราฟ
(BREITLING TOP TIME TRIUMPH CHRONOGRAPHS)

Top Time Triumph Speed Twin Owners’ Limited Edition

Top Time Triumph

ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่น่าจับตา!! ไทรอัมพ์ (TRIUMPH) และ ไบร์ทลิ่ง (BREITLING) เผยโฉมผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากความร่วมมือครั้งสำคัญ

 

ความงดงาม

  • หน้าปัดสีไอซ์บลูที่สะดุดตานั้นเชื่อมโยงถึงทั้งสีโพลีโครมาติกบลูของสปีด ทวิน และ หน้าปัดสีน้ำเงินของ
    ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ที่หายากนับจากปี 1970

ความพรีเมียม

  • เป็นนาฬิการะบบโครโนกราฟที่มีความแม่นยำสูงสำหรับการดูเวลา การจับเวลา และการจับความเร็ว
    โดยผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดตามมาตรฐานโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองจาก COSC ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความแม่นยำที่เหนือระดับความเฉพาะตัว
  • โครโนกราฟท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ในสองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน โดยจะมีรุ่นหนึ่งที่ถูกสงวนไว้เพื่อเจ้าของ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน ที่สามารถที่ระบุหมายเลขเฉพาะเพื่อให้ตรงกับหมายเลขลำดับของรถจักรยานยนต์

รายละเอียดและการออกแบบอย่างมีสไตล์

ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 วิลลี่ ไบร์ทลิ่ง (Willy Breitling) ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการแข่งรถและคาเฟ่เรซเซอร์ โดยเขาออกเดินทางเพื่อจับภาพการขับเคลื่อนด้วยความเร็วด้วยการจับเวลารูปแบบใหม่  ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ (Breitling Top Time) ซึ่งเป็นโครโนกราฟที่ไม่เหมือนใคร ที่กลายเป็นนาฬิกาทางเลือกสำหรับผู้ชายและผู้หญิงสายสปอร์ตอย่างรวดเร็ว  ในวันนี้ จิตวิญญาณนั้นได้กลับมาในนาฬิกาโครโนกราฟ ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ในสองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน โดยเวอร์ชันแรกจะสงวนไว้สำหรับผู้ที่ซื้อ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน จะมีหน้าปัดแบบ Sunrey ที่เปล่งประกาย โดยเจ้าของ สปีด ทวิน รุ่นลิมิเต็ด อิดิชันนี้สามารถสั่งซื้อนาฬิกากับทางไทรอัมพ์ภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 จะมีสิทธิพิเศษในการได้รับนาฬิกาพร้อมสลักหมายเลขรถจักรยานยนต์ของตนลงบนตัวเรือน สำหรับรุ่น core-collection ที่จำหน่ายทั่วไปโดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเหลือบดีไซน์แบบขัดเงาในแนวตั้งตัดกัน

ไฮไลท์ของนาฬิกาทั้งสองรุ่นคือสีไอซ์บลูที่เป็นเอกลักษณ์บนหน้าปัด ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก สีโพลีโครมา ติกบลูของไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด 6ที (Triumph Thunderbird 6T) จากปี 1951 และ หน้าปัดสีฟ้าที่หายากของ ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ 815 (Breitling Top Time Ref. 815) จากปี 1970  ฟีเจอร์ต่างๆที่ใส่มาในนาฬิการุ่นนี้ ได้แก่ สายหนังลูกวัวในสไตล์เรียบหรูที่ช่วยขับความเปล่งประกายของโลโก้ Breitling และโลโก้ Triumph ที่หน้าปัดในตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกาตามลำดับ ปุ่มกดจับเวลาขนาดใหญ่ที่ช่วยในการควบคุม การจับเวลาได้ง่ายทั้งฟังก์ชันเริ่ม-หยุด และรีเซ็ต พร้อมด้วยสเกลวัด Tachymeter แบบคอนทราสต์สูงที่ช่วยทำให้การอ่านค่าความเร็วชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไกจาก Breitling Calibre 23 ซึ่งเป็นโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองจาก COSC โดยมีพลังงานสำรองได้ประมาณ 48 ชั่วโมง

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่นักสะสมจะต้องหลงรัก คือฝาหลังของนาฬิกาที่ถูกสลักด้วยภาพสเกตช์รูปเครื่องยนต์สูบคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ โดยการวางตำแหน่งของภาพนี้เป็นการวางที่แสดงให้เห็นถึงการลงลึกในรายละเอียดในตัวรถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของและมีความใกล้ชิด หรือผู้ที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์รุ่นดั้งเดิมเท่านั้นที่จะได้เห็น