ค่ำวันที่ (5 พฤศจิกายน 2564) ที่่ผ่านมา นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายธเนศวร์เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ รวมถึงผู้แทนจากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมร้านอาหาร ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเจจู แอร์ (JEJU AIR) บินตรงจากสนามบินอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อต้อนรับการกลับมาเปิดประเทศอย่างอบอุ่นและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism)นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า โครงการ Charming Chaingmai จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่สีฟ้าเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในระยะที่1 โดยวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ได้ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบิน Jeju Air เที่ยวบิน 7C4205 เส้นทางอินชอน – เชียงใหม่ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เวลา 22.30 น. นำคณะนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟชาวเกาหลีใต้ เดินทางเข้าราชอาณาจักรภายใต้รูปแบบ Exemption Quarantine (Test & Go) จำนวน 83 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบในกีฬากอล์ฟและมนต์สเน่ห์ของจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งเป็นช่วงที่นักกอล์ฟชาวเกาหลีใต้นิยมตีกอล์ฟในต่างประเทศเนื่องจากข้อจำกัดด้านภูมิอากาศของประเทศ โดยมีการต้อนรับด้วยอุโมงค์น้ำ (Water Salute) ซึ่งคณะฯ จะเดินทางมาเล่นกอล์ฟ ณ สนามกอล์ฟอาทิตยาเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน โดยจะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการสาธารณสุขและจะอยู่เล่นกอล์ฟพร้อมทั้งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ – ลำพูน และใกล้เคียง ก่อนเดินทางกลับในสัปดาห์ถัดไป และด้วยความร่วมมือระหว่างสายการบิน Jeju Air และสนามกอล์ฟอาทิตยาเชียงใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟชาวเกาหลีเดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) บินตรงเข้าสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ในทุก ๆ สัปดาห์ รวม 6 เที่ยวบิน เพื่อเล่นกอล์ฟและท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 12 ธันวาคม 2564 รวมความจุผู้โดยสารมากกว่า 1,000 คน หลังจากนี้จะมีเที่ยวบินอื่น ๆ ทยอยบินตรงจากอินชอนเข้าเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องประมาณ 55 เที่ยวบิน จำนวนความจุผู้โดยสาร 12,510 ที่นั่ง ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 – มกราคม 2565
กอปรกับการคลายข้อจำกัดมาตรการเดินทางระหว่างประเทศของสาธารณรัฐเกาหลี โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้เดินทางกลับเข้าประเทศที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม ตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่ยังคงขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและเชิญชวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย
ทั้งนี้ แนวทางการเดินทางเข้าราชอาณาจักร Thailand Reopening ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
1. Test & Go นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยกลับประเทศมาจากประเทศหรือพื้นที่ที่กำหนด 63 ประเทศ ได้รับวัคซีนครบตามกำหนดไม่น้อยกว่า 14 วัน พำนักในโรงแรมที่พักมาตรฐาน SHA Plus / AQ จำนวน 1 คืน เพื่อรอผลการตรวจโควิด-19 เมื่อผลเป็นลบ สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวไม่จำกัดพื้นที่
2. Living in the Blue Zone นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยเดินทางจากประเทศอื่นๆ ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด ต้องเข้ากักตัวพำนักในโรงแรมที่พักมาตรฐาน SHA Plusในพื้นที่สีฟ้า Blue Zone นำร่อง ระยะที่ 1 จำนวน 17 จังหวัด อย่างน้อย 7 วัน
3. Alternative Quarantine (AQ) Happy Quarantine ทั่วไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทยเดินทางมาจากทุกประเทศ กรณีรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์และเดินทางทางอากาศ ทางเรือ ต้องกักตัวใน AQ จำนวน 10 วัน และกรณีผู้ที่เดินทางมาจากทุกประเทศ รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ แต่ต้องการเดินทางเข้าในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่สีฟ้าจะต้องกักตัวใน AQ จำนวน 7 วัน
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tatnews.org