การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ททท. สำนักงานอุดรธานี รับเทรนด์ท่องเที่ยวศรัทธา ปลุกกระแสสายมูด้วยกิจกรรม “มูให้เฮง มูให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก” ร่วมกับ ดร.คฑา ชินบัญชร ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเสริมสิริมงคลตามความเชื่อเชื่อมโยงเส้นทางพญานาค ในพื้นที่ดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ “นคราธานี” จังหวัดอุดรธานี หนองคายและบึงกาฬ ภายใต้ธีม #ไหว้พญานาคพญายักษ์แล้วจะหลงรักนคราธานี ต่อยอดกิจกรรม #มูกลางคืนก็ปังมูกลางวันก็เฮง หวังสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ 120 ล้านบาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ททท. เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศผ่านแคมเปญสื่อสาร “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม”ด้วยการนำเสนอการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอัตลักษณ์ของพื้นที่เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าและเปี่ยมความหมายแก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชูคอนเซปต์ “Isan In Love หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” กระตุ้นท่องเที่ยวจังหวัดภาคอีสาน กับ 3 ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ควบคู่กับการเผยแพร่ Soft Power of Thailand ประกอบกับ “นาค” ได้รับประกาศเป็นสัตว์เอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์ในตำนาน จึงเป็นโอกาสดีในการต่อยอดกระแสเดินทางท่องเที่ยวสายศรัทธาหรือสายมู จัดกิจกรรม “มูให้เฮง มูให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก” ภายใต้ธีม #ไหว้พญานาคพญายักษ์แล้วจะหลงรักนคราธานี
โดยร่วมกับ ดร.คฑา ชินบัญชร ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวสายมูในพื้นที่ “นคราธานี” ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองคายและบึงกาฬ พร้อมหยิบยกความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่นเรื่อง “นาค” Soft Power สำคัญ สัญลักษณ์แห่งสายน้ำและความอุดมสมบูรณ์ ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนามาสร้างสรรค์เส้นทางสายพญานาคในดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สะท้อนอัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่ผูกโยงกับความศรัทธาช้านาน โดยมีเส้นทางท่องเที่ยวไฮไลท์ คือ เส้นทางอุดรธานี ท้าวเวสสุวรรณ – วัดสระมณี – วัดป่าดงหนองตาล / เส้นทางหนองคาย พระธาตุพังพวน – วัดโพธิ์ชัย – พระธาตุหล้าหนอง / เส้นทางบึงกาฬ วัดสุวรรณราชดาราม – วัดป่าเมืองเหือง – ถ้ำนาคา – เกาะดอนโพธิ์ (ปู่อือลือ) และต่อยอดมาถึงกิจกรรม #มูกลางคืนก็ปังมูกลางวันก็เฮง กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมโยง เพิ่มวันพำนักพักค้าง และทำกิจกรรมขอพร มูปัง ดัง เฮง ได้ทั้ง 24 ชั่วโมง โดยมีเส้นทางตัวอย่าง คือ เส้นทางองค์ศรีสุขคเณศ – ท้าวเวสสุวรรณ – ศาลเทพารักษ์ – กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งสร้างการรับรู้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model รณรงค์ให้ลดการจุดธูปเทียน ลดควัน ลดมลพิษ ลด ละ เลิก กิจกรรมที่เป็นการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ถุงผ้าภาชนะจากธรรมชาติ ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ตลอดจนประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางสัมผัสเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมอันงดงาม และความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของเส้นทางสายมูแห่งดินแดนอีสาน ตอกย้ำสโลกแกน “นคราธานีเที่ยวได้ทั้งปี” ให้แดนอีสานเป็นจุดหมายปลายทางในใจของนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่ากิจกรรมนี้จะทำให้เกิดการเดินทางตามเส้นทางท่องเที่ยวสายมูในพื้นที่ประมาณ 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 120 ล้านบาท ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2565 – เดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานอุดรธานี โทร. 042 325 427 และทาง Fanpage Facebook : ททท.สำนักงานอุดรธานี
#นคราธานีINLOVE #สายมูนคราธานี