การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินทางเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2023 ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2566 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยนำทัพผู้ประกอบการของไทยจำนวนกว่า 40 ราย เข้าร่วม โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ร่วมนำเสนอทิศทางการตลาดและส่งเสริม Soft Power of Thailand ตามแคมเปญการตลาด “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” หวังดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพชาวอินเดียเข้าเที่ยวไทย ทะลุ 1.4 ล้านคน สนับสนุนเป้าหมายตลาดต่างประเทศ 25 ล้านคน ภายในปี 2566
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า งาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2023 ถือเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในสาธารณรัฐอินเดีย สำหรับปี 2566 เป็นการจัดงานครั้งที่ 30 และ ททท. เดินทางเข้าร่วมงานฯ เป็นครั้งที่ 14 ภายใต้คูหาประเทศไทยที่มีพื้นที่ขนาด 300 ตารางเมตร ร่วมด้วยสายการบินพันธมิตร ได้แก่ สายการบินไทย และไทยสมายด์ และผู้ประกอบการภาคเอกชนของไทยรวมกว่า 40 ราย ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม 20 ราย กลุ่มบริษัทนำเที่ยวและการจัดการภาคพื้นดิน (DMC) 12 ราย และกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ 8 ราย รวมถึงได้จัดสรรพื้นที่ให้แก่สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว 5 ราย และสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต 5 ราย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยสู่ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยกิจกรรมหลักภายในงาน SATTE 2023 คือ การเจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยว (B2B) ระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่เป็นผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วโลก ซึ่ง ททท. เล็งเห็นถึงโอกาสของภาคเอกชนไทยที่จะได้ใช้เวทีแห่งนี้ในการเจรจาธุรกิจเพื่อทำการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวอินเดีย โดยคาดว่าจะมีจำนวนนัดหมาย/การจับคู่เจรจาธุรกิจ (appointment) ไม่ต่ำกว่า 3,000
นัดหมาย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ททท. ร่วมกับพันธมิตรชาวอินเดียและชาวไทย จัดงาน“A Million Thanks : Amazing Thailand Night Reception” ณ โรงแรมลีลาพาเลซ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อขอบคุณการสนับสนุนที่ดีจากพันธมิตรชาวอินเดีย และเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย เกิน 1 ล้านคน ตั้งแต่ประเทศไทยได้เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2565 ตลอดจนเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศด้วยกลยุทธ์หลัก ได้แก่ การยกระดับอุปทานและมาตรฐานที่ยั่งยืน และการสร้างความตระหนักรู้ในผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นให้คำนึงถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าบ้านที่มีอัธยาศัยไมตรีต่อผู้มาเยือนทุกคน ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ Soft Power of Thailand แคมเปญ “Visit Thailand Year 2023: Amazing New Chapters” โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงและยั่งยืนในประเทศไทย เพื่อนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมายแก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) มุ่งสู่เป้าหมายการตลาดกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดอินเดียทะลุ 1.4 ล้านคน และสนับสนุนเป้าหมายตลาดต่างประเทศแตะ 25 ล้านคน ภายในปี 2566
อินเดียเป็นตลาดการท่องเที่ยวหลักที่สำคัญสำหรับประเทศไทยมาโดยตลอด ในปี 2565 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากกว่า 11.15 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย จำนวน 997,913 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวอินเดียถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยทางอากาศ (Air Travel) มากที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวม 35,240 บาท/คน/ทริป และวันพำนักเฉลี่ย 7.23 คืน