11 สิงหาคม 2564 – ชาร์ปประกาศเปิดตัว AQUOS THE SCENES 8K ผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงรุ่นเรือธงล่าสุดพร้อมกันในภูมิภาคอาเซียน เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของกลุ่มผลิตภัณฑ์ “อควอส” (AQUOS) ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ “เปลี่ยนโลกด้วย 8K+5G” ในฐานะผู้นำทีวีบ้าน ด้วยความคมชัดสูงสุดระดับ 8K อัดแน่นไปด้วยฟังค์ชั่นที่ช่วยเติมเต็มความสุขในช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัวในราคาที่จับต้องได้
มิสเตอร์ โรเบิร์ต อู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย และมาเลเซีย เผยว่า “ชาร์ปได้เปิดตัวทีวีแอลซีดีตระกูล “อควอส” ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 ในฐานะสัญลักษณ์แห่ง “มาตรฐานใหม่สำหรับทีวีในบ้านของคริสต์ศตวรรษที่ 21” ดังนั้นในโอกาสครบรอบ 20 ปีของชาร์ป “อควอส” และวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของชาร์ปที่มุ่งมั่นจะ “เปลี่ยนโลกด้วย 8K + 5G” ชาร์ปจึงพร้อมที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด AQUOS THE SCENES 8K เพื่อยกระดับด้วยปรากฎการณ์ภาพและเสียงที่น่าตื่นเต้นเร้าใจสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยคุณสมบัติเด่นสำหรับครอบครัวที่มองหาประสบการณ์ภาพและเสียงระดับพรีเมียมไว้ภายในบ้าน ตอบสนองความบันเทิงหลากหลายทั้งในรูปแบบโฮมซีนีม่า (Home-cinema) ดนตรี (Music-live) และ เลเทอร์แกรม (Latergram) เพื่อแชร์ความทรงจำที่ทรงคุณค่าของครอบครัวในรูปแบบของภาพถ่ายและวิดีโอผ่านจอทีวี นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านบันเทิงที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Android TV ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขที่มากคุณภาพในบ้านกับครอบครัว สอดรับกับยุคที่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมส่งผลให้ผู้คนออกจากบ้านน้อยลง ซึ่งชาร์ปมาพร้อมความท้าทายครั้งใหม่ คือ การตั้งราคาทีวี 8K ให้สามารถจับต้องได้ดีขึ้น โดยเล็งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าทีวี 4K ระดับพรีเมียม จึงนับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของชาร์ปในฐานะผู้นำทีวีบ้าน โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ด้วยประเทศไทยนั้นเป็นหนึ่งในตลาดหลักของชาร์ปมาเป็นเวลานาน และชาร์ป ไทยเองนั้นได้ดำเนินธุรกิจที่นี่มากว่า 90 ปี”
ผลิตภัณฑ์ AQUOS THE SCENES 8K ประกอบด้วยทีวี รุ่น DW1X ขนาด 60 และ 70 นิ้ว และ ซาวด์บาร์ รุ่น C22CX1 ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ได้รับการดีไซน์ในแนวคิด นีโอ-มินิมัลลิสม์ (Neo-Minimalist) ที่ไม่เพียงเรียบง่าย แต่ยังเพรียวสวยด้วยการออกแบบที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ที่รอบคอบเพื่อสร้างมิติการมีส่วนร่วมที่เหมาะสมในทุกจุดของบ้านทีวี AQUOS THE SCENES 8K รุ่น DW1X เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติเด่นสำหรับครอบครัวที่มองหาประสบการณ์ภาพระดับพรีเมียมไว้ภายในบ้าน ให้ภาพความละเอียดสูงระดับ 8K Ultra-High Definition (8K UHD) ผ่านจอภาพ Deep Chroma Display Pro ที่พัฒนาใหม่และผลิตในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ช่วยให้สัมผัสภาพที่สมจริงและมีมิติลึกล้ำยิ่งขึ้น ยกระดับประสบการณ์ชมภาพยนตร์ไปอีกขั้นด้วย HDR Enhanced+ ผสานขุมพลังการประมวลผลของ Z2 Revelation Processor ระบบประมวลผลอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาร์ป ให้ช่วงสีมากกว่า 100% ของมาตรฐานช่วงสีในโรงภาพยนตร์ดิจิทัล และให้ความสว่างหน้าจอเป็น 167% เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ และด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของระบบ Android TV ทำให้เพลิดเพลินกับการรับชมวิดีโอระดับ 8K ที่สตรีมทาง YouTube หรือ Video On Demand – VOD ที่หลากหลาย เช่น Netflix, Amazon Prime, และ Disney+ หรือแชร์ภาพนิ่ง วิดีโอ และดนตรีจากมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พีซีขึ้นบนหน้าจอทีวี นอกจากนี้ Google Duo ยังสนับสนุนการประชุมออนไลน์กับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย
ซาวด์บาร์ AQUOS THE SCENES ระบบโฮมเธียร์เตอร์ รุ่น C22CX1 ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีเสียงสามมิติ OPSODIS ที่ชาร์ปได้พัฒนาร่วมกับ Kajima Technical Research Institute ที่มีความเชี่ยวชาญในการดีไซน์โสตสถาปัตยกรรม และ The Institute of Sound and Vibration Research แห่ง University of Southampton ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโสตศาสตร์และการศึกษาวิจัยขั้นสูงในหลายสาขา จึงทำให้ซาวด์บาร์รุ่นนี้สามารถสรรค์สร้างมิติของเสียงแบบ 360 องศา ให้บรรยากาศการมีส่วนร่วมสมจริงจากแหล่งบันเทิงทั้งภาพยนตร์ ทีวี และเกมวิดีโอ โดยระบบจะจำลองการได้ยินของมนุษย์และประยุกต์ใช้ทฤษฎีการวางตำแหน่งลำโพง ผู้ฟังจะได้รับความรู้สึกเสมือนอยู่กลางซีนของเสียงนั้น และด้วยเอกลักษณ์นี้จึงคว้ารางวัลนวัตกรรม “Innovation Award” จาก VGP 2021 ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนดีไซน์ที่หรูหรายังกวาดรางวัล 2021 Red Dot Award และ 2021 IF Design Award จากประเทศเยอรมนีอีกด้วย โดยลูกค้ายังสามารถเสริมประสบการณ์การมีส่วนร่วมสมจริงนี้ด้วยการต่อซาวด์บาร์กับทีวี AQUOS THE SCENES 8K
ชาร์ป “อควอส” หรือ AQUOS เกิดจากการผสมคำระหว่าง AQUA + QUALITY เป็นทีวีระดับชั้นนำที่มีคุณภาพของภาพพร้อมการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และชาร์ปยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “ผู้บุกเบิกแอลซีดีทีวีและผู้ริเริ่มเทคโนโลยี 8K” โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2543-2563 ชาร์ปสร้างยอดขายทีวีแอลซีดีรวมทั่วโลกได้ถึง 50 ล้านเครื่อง