มื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ไอออน (AION) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจเป็นครั้งแรกกับบริษัท โกลด์ อินทิเกรท (GOLD INTEGRATE) ของประเทศไทย โดยมีผู้นำรัฐบาลมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน, เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตลอดจนเจ้าหน้าที่อีกหลายท่านร่วมเป็นสักขีพยาน ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการสร้างที่ทำการสำนักงานใหญ่ของไอออนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเป็นบริษัทลูกของไอออนในประเทศไทยที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ระดับท็อปของไทยเพื่อจัดส่งรถยนต์ป้อนตลาดไทย

รูปแบบเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของไอออน: ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในไทยนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สำคัญในการก้าวสู่ตลาดต่างประเทศของไอออน โดยมีเป้าหมายสร้างความร่วมมือกับประเทศเจ้าภาพแบบได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าได้รับประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมของรัฐบาล เช่น การลดภาษีและค่าธรรมเนียม การอุดหนุนเป็นเงินสดให้แก่ผู้บริโภค และการสนับสนุนด้านการลงทุน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้ประเทศไทยมีความน่าสนใจทั้งในด้านการมาลงทุนและการเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่

ไออนจะเร่งนำเทคโนโลยีเหนือระดับมาสู่ผู้บริโภคชาวไทยผ่านการเปิดตัวรถระดับท็อปรุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อชาวจีนและนานาชาติ ขณะเดียวกัน ไออนจะขยายช่องทางการขายในอนาคตและผลิตรถในท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นฐานบัญชาการธุรกิจของไอออนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีจุดติดต่อในพื้นที่พร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน และมีบทบาทสนับสนุนหลักสำหรับการขยายตัวต่อไป

ความมั่นใจมาจากผลลัพธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

ในฐานะที่เป็นยานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะโมเดลหลักของจีเอซี กรุ๊ป (GAC Group) ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี ไอออนสร้างอัตราการเติบโตแบบทบต้นโดยเฉลี่ยต่อปีได้เกิน 120% โดยในปี 2565 ทำยอดจำหน่ายได้สูงถึง 271,200 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นถึง 126% สร้างรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 3.87 หมื่นล้านหยวน (5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จนถึงขณะนี้ ไอออนสร้างยานยนต์อัจฉริยะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวระดับเวิลด์คลาสแล้วทั้งหมด 6 รุ่น ซึ่งรวมทั้งไอออน เอส (S), วี (V) และวาย (Y) ทุกรุ่นมียอดจำหน่ายอยู่ในสามอันดับแรกของโลกสำหรับรถระดับเดียวกัน สำหรับรถรุ่นไอออน แอลเอ็กซ์ (LX) นั้นทลายเพดานจำกัดของอุตสาหกรรมรถยนต์หลายอย่าง โดยใช้แบตเตอรี่รถไฟฟ้าระดับเวิลด์คลาสที่มีช่วงการทำงานถึง 1,008 กิโลเมตร ในขณะที่รถไอออน ไฮเปอร์ เอสเอสอาร์ (Hyper SSR) ประสบความสำเร็จในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างเหลือเชื่อภายในเวลาเพียง 1.9 วินาที เฉือนชนะรถรุ่นโร้ดสเตอร์ (Roadster) ของเทสลา (Tesla) ไปแบบสูสี

ด้วยเหตุนี้ ไอออนจึงมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะผู้บุกเบิกด้านยานยนต์พลังงานใหม่ และเป็นตัวแทนผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมาย “สี่ทันสมัย” ของจีน จีเอซี ไอออน ตั้งอนาคตไว้ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลก และพร้อมแล้วที่จะประสบความสำเร็จในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศอื่น ๆ