บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เกรย์ กูซ (GREY GOOSE) แบรนด์วอดก้าระดับซูเปอร์พรีเมียมของโลก นำโดย มร.นากุล รอย ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่าย จัดงานเปิดตัวแคมเปญระดับโลก“GREY GOOSE LIVE LIKE DAY, LIVE LIKE NIGHT” เนรมิต “GREY GOOSE IMMERSIVE LED CUBE” ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟ 360 องศา (Immersive 360 Experience) มอบความรู้สึกแปลกใหม่กับแสงสีเสียงในรูปแบบ Art Installation ผสานเทคนิค LED Illumination ที่ตื่นตาตื่นใจ ทำให้พื้นที่จัดงานมีมิติเสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในสเปซของศิลปะดิจิทัลขนาดย่อม เติมเต็มความสุขด้วยเสียงเพลงโดยดีเจระดับโลกไปกับซูเปอร์พรีเมียมวอดก้าเกรย์กูซได้ตลอดวันทั้งกลางวันและกลางคืนในงาน NEON COUNTDOWN FESTIVAL 2022 เฟสติวัลเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย
ภายในงานทาง เกรย์กูซ ได้เนรมิตพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. ในธีม Live Like Day, Live Like Night ให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่บนพื้นที่ความสนุกให้เข้ากับงานศิลปะด้วยเทคนิคการออกแบบแสงสีเสียงตระการตาระดับโลก ย้ำภาพลักษณ์ความเป็นซูเปอร์พรีเมียมวอดก้าระดับโลกของแบรนด์ Grey Goose โดยมีทีมผู้บริหารบาคาร์ดี ได้แก่ ลักขณา ประภาศรีอนันต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ทศนาถ ช่อลำเจียก ผู้จัดการฝ่ายขาย, ภัทรานิษฐ์ ยุกติรัตน ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ณัฐกฤษ ยิ้มวัฒนอดุลย์ หัวหน้าฝ่ายการขายและการค้าส่ง และ นพมาศ เมืองช้าง ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย ร่วมด้วย โยกี ซูบรามาเนียม ผู้อำนวยการการจัดงานนีออน เคาน์ดาวน์ เฟสติวัล ร่วมงานด้วย
คุณนากุล รอย ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับแคมเปญ Grey Goose Live Like Day, Live Like Night ครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือการจัดอีเวนต์เต็มรูปแบบครั้งแรกของเกรย์ กูซ ในรอบ 3 ปีหลังสถานการณ์โควิด เราตั้งใจมอบประสบการณ์ความสนุกให้ทุกคนได้มีความสุขร่วมกันในค่ำคืนเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย งานนี้ไม่ใช่แค่เทศกาลดนตรีระดับโลกเท่านั้นแต่เป็นประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้ร่วมสัมผัสความเป็นตัวตนของ เกรย์ กูซ แบรนด์วอดก้าระดับซูเปอร์พรีเมียมของโลก
แคมเปญระดับโลก “Grey Goose Live Like Day, Live Like Night” เปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย โดย เกรย์กูซ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อต้อนรับศักราชใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเติมเต็มความสุขผ่านเสียงเพลงและเครื่องดื่มเลอค่าของเกรย์กูซเข้าไว้ด้วยกัน ดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถเป็นตัวกลางทำให้ทุกคนสนุกได้ทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ให้รู้จักเรามากยิ่งขึ้น โดยไม่ลืมที่จะผสานแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนไว้ (Sustainable Business) ในฐานะ “ซูเปอร์พรีเมียมวอดก้าชื่อดังระดับโลก” จากแคว้นคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส
สาเหตุที่เลือกเปิดตัวแคมเปญนี้ในงาน Neon Countdown Music Festival 2022 เนื่องจากลักษณะการจัดงานมีความแตกต่างจากงานเคาท์ดาวน์อื่นที่จัดเต็ม 3 วัน 3 คืน อีกทั้งยังเปิดให้เริ่มต้นความสนุกได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ซึ่งมีความสอดคล้องกับแคมเปญ Live Like Day, Live Like Night ของเกรย์กูซ ที่มาในคอนเซ็ปต์การเติมเต็มความสุขด้วยเสียงเพลงไปกับเกรย์กูซได้ตลอดวันทั้งกลางวันและกลางคืน และมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่รักในเสียงเพลง โดยงานนี้ได้ขนทัพดีเจชื่อดังระดับโลกกว่า 30 ชีวิต มาสร้างความสนุกสุดเดือดให้แฟนเพลงได้ เรียกได้ว่าเป็นการจัดงานในแบบที่ไม่มีใครกล้าทำ สำหรับพื้นที่ของเกรย์กูซมีผู้ร่วมงานประมาณ 15,000 คนต่อวัน
เกรย์ กูซ ตั้งใจที่จะรังสรรค์เครื่องดื่มวอดก้าที่ดีที่สุดในโลกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ (Spring Water) ผสานเข้ากับที่สุดของวัตถุดิบระดับพรีเมียมอย่าง ข้าวสาลี (Soft Winter Wheat) ที่เพาะปลูกในฝรั่งเศส 100% ที่ได้รับการบรรจงปลูกและเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันเพื่อสนับสนุนการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการกลั่นเฉพาะตัวให้ได้มาซึ่งวอดก้าที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากสีและกลิ่น แต่ยังอุดมไปด้วยรสสัมผัสแบบธรรมชาติ บรรจุลงขวดแก้วดีไซน์โดดเด่น ที่ออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักลดลง 14% อีกทั้งใช้กระบวนการ “ขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste)” ด้วยการนำเปลือกข้าวสาลีที่เหลือจากการผลิต นำไปทำเป็นอาหารสัตว์ เพื่อลดการเกิดขยะตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดให้ลดเหลือน้อยที่สุดจนเป็นศูนย์ เพื่อให้สมกับคุณค่าของความเป็นที่สุดของซูเปอร์พรีเมียม