บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือปูนอินทรี ติดอันดับ 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จากรายชื่อ ESG100 ประจำปี 2464 หรือ ESG100: 2021 จัดอันดับโดยสถาบันไทยพัฒน์ โดยได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในทำเนียบ ESG100 ต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน (2020-2021)
คุณศิวะ มหาสันทนะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ ปูนอินทรี เผยว่า “กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ ให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในทำเนียบ ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยการจัดอันดับหลักทรัพย์กลุ่ม ESG100 ปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์
เอ็ม เอ ไอ (MAI) เข้าร่วมการจัดอันดับซึ่งปูนอินทรีสามารถติดอันดับเป็นหนึ่งใน 100 บริษัทชั้นนำที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ ESG100 ประจำปี 2564 ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนแบบยั่งยืนที่ทนทานต่อวิกฤตการณ์โควิด ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นจะสืบสานความไว้วางใจ และความผูกพันที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อกันให้กับคู่ค้า พนักงาน และชุมชน เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุด และอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกคนต่อไป”
นับตั้งแต่ปี 2558 สถาบันไทยพัฒน์ได้ทำการจัดอันดับ ESG100 โดยได้ทำการคัดเลือก 100 บริษัทหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 โดยจำแนกกลุ่มธุรกิจของบริษัท ในรายชื่อ ESG100 ออกเป็น 8 กลุ่ม โดยปูนอินทรีเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ได้รับเลือกให้ติดอันดับในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ซึ่งมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกของการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการพัฒนาโครงการ การใช้ที่ดินและผลกระทบทางนิเวศ การจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้ง จริยธรรม และความโปร่งใสในการให้บริการ
นายศิวะ มหาสันทนะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตลอดเวลาของการดำเนินธุรกิจ กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงได้ยึดมั่นการดำเนินกิจการบนพื้นฐานหลักธรรมาภิบาลที่ดี และด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชนสังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่า ตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญทุกฝ่าย ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะเป็นพื้นฐานของการเติบโตก้าวหน้าของธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”
ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปูนอินทรีได้สร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มผู้ลงทุนในการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล พร้อมไปกับการสร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร ควบคู่ไปกับความเติบโตของสังคม เพื่อคนรุ่นต่อไปในอนาคต นับเป็นเครื่องพิสูจน์วิสัยทัศน์ของปูนอินทรีในการพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นการเพิ่มมูลค่าอย่างยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ