เมื่อวันอังคารที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๐๐ น. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพั ฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายจุติ ไกรฤกษ์) พร้อมด้วยปลัดกระทรวงการพัฒนาสั งคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายปรเมธี วิมลศิริ) อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์) รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี (นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง)
คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ทีม One Home พม. จังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวกลุ่ มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่ประสบปัญหาความเดือดร้ อนทางสั งคมจากผลกระทบของสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรั สโคโรนา 2019 (โควิค-19) ณ หมู่ที่ ๑๙ ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จากนั้น เดินทางไปลงพื้นที่เยี่ยมให้ กำลังใจและชื่นชม นายศตพล สุภณิดาเมธัส คนพิการสู้ชีวิต ที่ได้รับหลายรางวัลสำคั ญจากการแข่งขันฝีมือคนพิการแห่ งชาติ และการแข่งขันฝีมือคนพิ การนานาชาติ สาขาการประกอบวงจรอิเล็กทรอนิ กส์ นับเป็นแบบอย่างคนพิการที่ ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสี ยงให้กับประเทศไทย อีกทั้งเป็นประธานการประชุมหน่ วยงานทีม พม. One Home ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวั ดราชบุรี (นายชยาวุธ จันทร) ราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน ๙ หน่วยงาน เพื่อติดตามและขับเคลื่ อนการดำเนินงานตามภารกิจของ กระทรวง พม. ในพื้นที่ ณ เทศบาลตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
นายจุติ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หั วทรงมีพระราชดำรัสว่า อยากเห็นประชาชนมีความสุข โดยขอให้ดูแลประชาชนทุกคนให้มี ความสุข อย่าให้ประชาชนมีความลำบาก นับว่าเป็นงานของกระทรวง พม. โดยตรง และเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว
โดยวันนี้ ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนกลุ่ มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรั สโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งประกอบด้วย ๑) หญิงชรา อาย ๗๒ ปี อาศัยอยู่กับหลาน ๒ คน ที่พักอาศัยเป็นบ้านเช่าถู กไฟไหม้ ๒) ชายชรา อายุ ๖๔ ปี สุขภาพไม่แข็งแรง อาศัยอยู่กับภรรยาที่เป็นเสาหลั กในการทำงานหารายได้ของครอบครัว ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้พั งจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ๓) หญิง หม้าย อายุ ๔๔ ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน ๑ คน แต่ประสบปัญหาเรื่องรายได้ เนื่องจากไม่ สามารถออกไปประกอบอาชีพรับจ้ างทั่วไปจากผลกระทบของโรคโควิด- 19 ๔) หญิง อายุ ๕๔ ปี พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่ างกาย ป่วยมีโรคประจำตัว อาศัยอยู่กับสามี อายุ ๖๔ ปี และหลาน ๓ คน รวมทั้งบุตรเขยที่เป็นเสาหลั กในการทำงานหารายได้ของครอบครัว แต่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชี วิตประจำวัน ๕) ชายชรา อายุ ๗๓ ปี
พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่ างกาย (ร่างกายมีเพียงครึ่งท่อนบน) ที่พักอาศัยเป็นบ้านเช่าถู กไฟไหม้ จึงต้องมาอาศัยอยู่กับน้ องชายและน้องสาว และ ๖) เด็กชาย อายุ ๑๐ ปี พิการทางสมองและป่วยเป็นโรคลมชั ก อาศัยอยู่กับญาติแต่ไม่สามารถดู แลได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
ทั้งนี้ กระทรวง พม. ไม่ได้มามอบเพียงแค่ถุงยังชีพ แต่เรามามอบโอกาสและความช่ วยเหลือให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่เป็ นอนาคตในการพัฒนาประเทศ
ให้ได้เรียนหนังสือ พร้อมทุนการศึกษา อีกทั้งให้การส่งเสริมอาชี พและหารายได้ให้กับประชาชน ซึ่งจะประสานงานกับศูนย์ฝึกอาชี พในพื้นที่โดยเฉพาะการฝึกอาชี พใหม่รองรับการเปลี่ยนแปลงหลั งโรคโควิด-19 เพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว โดยตนในฐานะผู้กำกับของกระทรวง พม. จะลงมาดูแลประชาชนและจะต้องได้ รับการแก้ไขอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมกรอบ เงินสงเคราะห์สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส และประสานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ช่วยซ่อมสร้างบ้านสำหรับผู้สู งอายุและคนพิการ เป็นต้น อีกทั้งมอบหมายให้ ทีม One Home พม. จังหวัดราชบุรี หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องและอาสาพัฒนาสังคมและความมั่ นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ เพื่อร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลื อในระยะยาวต่อไป