กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองสิทธิ์ “โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อย” สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร กาญจนบุรี มหาสารคาม สุรินทร์ และอุบลราชธานี รวม 818 หน่วย โดยให้สิทธิ์ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจองสิทธิ์ก่อนเป็นอันดับแรก และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปตามหลักเกณฑ์ที่การเคหะแห่งชาติกำหนดได้ลงทะเบียนจองสิทธิ์เป็นลำดับถัดไป นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว (Housing for all) และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยในชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
การเคหะแห่งชาติได้จัดสร้างโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3) จำนวน 196 หน่วย จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 79 หน่วย จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 138 หน่วย จังหวัดสุรินทร์ (สลักได) จำนวน 163 หน่วย และจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 242 หน่วย รวมทั้งสิ้น 818 หน่วย ขนาดห้องพักอาศัย 28-30 ตารางวา อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 1,400 – 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับที่ตั้งโครงการ สำหรับคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของผู้ได้สิทธิเช่ากรณีสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์นับตั้งแต่วันทำสัญญา หรือยังไม่ถึง 20 ปี บริบูรณ์ แต่ได้บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส และต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย โดยกำหนดสัดส่วนการอยู่อาศัยของผู้ได้สิทธิกลุ่มนี้ในแต่ละโครงการร้อยละ 60 ขณะที่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปไม่จำกัดอาชีพ ต้องมีรายได้ไม่เกิน 19,200 บาท/เดือน ซึ่งไม่รวมรายได้พิเศษอื่นๆ เช่น ค่าล่วงเวลา เบี้ยกันดาร โดยกำหนดสัดส่วนการอยู่อาศัยของผู้ได้สิทธิกลุ่มนี้ในแต่ละโครงการร้อยละ 40 ทั้งนี้ เงื่อนไขการเช่า ได้กำหนดเงินประกันการเช่า 1 เดือน และให้สิทธิเช่า 1 คนต่อ 1 ห้อง/สัญญา โดยมีขนาดครัวเรือนไม่เกิน 4 คน และห้ามมิให้นำห้องที่เช่าไปให้เช่าช่วง หากตรวจสอ¬บพบภายหลังจะยกเลิกสิทธิและเรียกคืนห้องทันที โดยการเคหะแห่งชาติจะทำสัญญากับผู้เช่าช่วงโดยตรง
“การเคหะแห่งชาติให้สิทธิผู้สูงอายุ และคนพิการเช่าอาคาร ชั้นที่ 1 เป็นอันดับแรก และให้สิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นลำดับถัดไป ภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่เริ่มเปิดให้เช่าอาคาร แต่หากเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าว การเคหะแห่งชาติขอสงวนสิทธินำอาคารเช่าคงเหลือที่กันไว้สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าอาคารในลำดับต่อไป ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยของการเคหะแห่งชาติผ่านระบบ Line OA : @nha.thailand และเว็บไซต์การเคหะแห่งชาติ https://www.nha.co.th/nha-low-income/ หรือสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานเคหะจังหวัดที่ตั้งโครงการ หรือ Call Center 1615” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว
Post Views: 316