ในงานเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา 2565’ (The MICHELIN Guide Bangkok, Phra Nakhon Si Ayutthaya, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2022) ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับที่ 5 ของประเทศไทย มิชลินได้ประกาศรายชื่อร้านอาหารที่คว้ารางวัล ‘ดาวมิชลิน’ (MICHELIN Star), รางวัล “ดาวมิชลินรักษ์โลก” (MICHELIN Green Star), รางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award และรางวัล MICHELIN Guide Service Award โดยคู่มือฉบับล่าสุดนี้บรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 361 แห่ง เป็นร้านที่ได้รับรางวัล ‘2 ดาวมิชลิน’ จำนวน 6 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ 2 ดาวมิชลินเอาไว้ได้), รางวัล ‘1 ดาวมิชลิน’ จำนวน 26 ร้าน, รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 133 ร้าน และร้านแนะนำอื่น ๆ อีก 196 ร้าน โดยมีร้านติดอันดับครั้งแรกคว้ารางวัล ‘1 ดาวมิชลิน’ จำนวน 6 ร้าน (ทุกร้านอยู่ในกรุงเทพฯ) และรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 33 ร้าน ทั้งยังมีร้านติดโผร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เป็นครั้งแรกอีกถึง 51 ร้านเกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “การปิดประเทศและข้อจำกัดเรื่องการนั่งทานอาหารในร้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารประสบภาวะซบเซา อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีร้านอาหารใหม่ ๆ เปิดตัวขึ้นและนำเสนอประเภทอาหารที่น่าสนใจ อาทิ อาหารที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารริมทาง และอาหารไทยดั้งเดิมสูตรโบราณ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการนำผลผลิตและวัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้ในการปรุงอาหาร เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจในวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีและแหล่งที่มาของอาหารมากขึ้น แนวโน้มดังกล่าวไม่เพียงทำให้อาหารโดดเด่นด้วยความสดใหม่ แต่ยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเกษตรและธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง” “แม้อยุธยาจะเป็นเมืองล่าสุดที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำปี 2565 ได้เข้าไปดำเนินการสำรวจ คัดเลือก และจัดอันดับร้านอาหาร แต่ถือเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ ในเล่ม นอกจากนี้ ยังมีเสน่ห์จากร่องรอยอดีตและมีประวัติความเป็นมาที่ทรงอิทธิพลต่ออาหารไทยอย่างยิ่ง เราเชื่อมั่นว่าการขยายขอบเขตเข้าสู่อยุธยาจะทำให้ผู้อ่านทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เพลิดเพลินไปกับสีสันและบรรยากาศด้านอาหารของไทยในภาพรวมมากขึ้น” มร.ปูลเล็นเนค กล่าว
รางวัล ‘1 ดาวมิชลิน’ มีร้านติดอันดับครั้งแรก 6 ร้าน ขณะที่รางวัล ‘2 ดาวมิชลิน’ ยังคงมีรายชื่อและจำนวนเท่าเดิม
ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 รายชื่อร้านอาหารคว้ารางวัล ‘2 ดาวมิชลิน’ ยังคงเดิมรวมทั้งสิ้น 6 ร้าน ได้แก่ Chef’s Table (เชฟส์เทเบิล), Le Normandie (เลอ นอร์มังดี), Mezzaluna (เมซซาลูน่า), R-Haan, Sorn (ศรณ์) และ Sühring สำหรับรางวัล ‘1 ดาวมิชลิน’ มีร้านอาหารที่ติดอันดับครั้งแรก 6 ร้าน โดยทุกร้านอยู่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ อักษร ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำราอาหารไทยยุคปี พ.ศ. 2480-2515 ซึ่งรวมถึงเมนูเด่นที่หารับประทานที่อื่นไม่ได้ เช่น ขนมครกหน้าหมูเค็ม และหลนเต้าหู้ยี้เสิร์ฟกับใบมะตูมแขกและใบมะกอก, Côte by Mauro Colagreco ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่นำเสนอตำรับอาหารร่วมสมัยซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาหารประจำถิ่นเฟรนช์ริเวียรา ทั้งในเมนูเซ็ตอาหารกลางวัน, เมนูอาหารแบบเลือกสั่ง หรือ “อะลาคาร์ท” (À La Carte) และเมนูมื้อเย็นที่เชฟเป็นผู้เลือกให้กับลูกค้า หรือ “คาร์ท บล็องช์” (Carte Blanche) แบบ 9 คอร์ส
Gaa ร้านอาหารสไตล์นวัตกรรมซึ่งนำเสนอจานเด็ดอินเดียต้นตำรับที่ปรุงด้วยเทคนิคใหม่ ๆ และจัดแต่งอย่างทันสมัย รวมทั้งอาหารชุดแบบ Tasting Menu ที่ยกขบวนสตรีตฟู้ดอินเดียซึ่งปรับโฉมใหม่ให้ลงตัวทั้งกลิ่นรสและเนื้อสัมผัสมาให้ลิ้มรส, IGNIV ร้านอาหารยุโรปร่วมสมัยที่นำเสนออาหารยุโรปสมัยใหม่ในรูปแบบแชร์ริ่ง (Sharing) อาหารขึ้นชื่อ คือ นักเก็ตไก่ที่กรอบนอกแต่ด้านในชุ่มฉ่ำ ซึ่งเสิร์ฟมาพร้อมซอสบาร์บีคิวสูตรพิเศษของร้าน, Savelberg (ซาเวลเบิร์ก) [ถือเป็นร้านติดอันดับครั้งแรกเนื่องจากย้ายสถานที่ตั้งใหม่] ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่นำเสนอเมนู “อะลาคาร์ท” (À La Carte) และเซ็ตเมนูที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบชั้นดีจากหลากหลายประเทศและปรุงด้วยฝีมืออย่างพิถีพิถัน, Yu Ting Yuan ร้านอาหารจีนกวางตุ้งซึ่งนำเสนออาหารที่สะท้อนศิลปะความเชี่ยวชาญในการปรุงเป็นอย่างดี เมนูที่ไม่ควรพลาดคือเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ และติ่มซำรสเยี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีร้านใหม่ติดโผร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เป็นครั้งแรกอีก 51 ร้าน
นอกจากร้านอาหารที่ได้รับรางวัล ‘ดาวมิชลิน’, ‘บิบ กูร์มองด์’ และ ‘ดาวมิชลินรักษ์โลก’ แล้ว คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ยังแนะนำร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน ไว้ในเล่มอีก 196 ร้าน ในจำนวนนี้อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 91 ร้าน, อยุธยา 16 ร้าน, เชียงใหม่ 37 ร้าน, ภูเก็ตและพังงา 52 ร้าน โดยมีร้านติดอันดับครั้งแรก 51 ร้าน (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 ร้าน, อยุธยา 16 ร้าน, เชียงใหม่ 5 ร้าน, ภูเก็ตและพังงา 15 ร้าน) อาทิ บ้านสุริยาศัย [กรุงเทพฯ] ร้านอาหารที่ปรุงอาหารทุกจานอย่างละเมียดละไมตามแบบชาววังและตำรับโบราณที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว เช่น ไข่พะโล้ไทยตานี และผัดพริกขิงตามเสด็จฯ แปลง, ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน [อยุธยา] ร้านแรกและร้านเดียวในอยุธยาที่เลือกใช้ ‘ผักหวาน’ เป็นวัตถุดิบหลัก เมนูเน้นไปที่อาหารไทยยอดนิยม แต่การมีผักหวานอยู่ในทุกจานทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสแตกต่างไปจากที่คุ้นเคย, แยงซีเกียง [เชียงใหม่] ร้านอาหารจีนราคามิตรภาพในบ้านสไตล์ล้านนาประยุกต์ อาหารจีนที่นี่ใช้วัตถุดิบสดสะอาด เมนูเด่นประจำร้านคือเกี๊ยวหอยเชลล์นึ่งกับเห็ดทรัฟเฟิลรสละมุน, จุมโพ่ [พังงา] ร้านอาหารที่นำเสนออาหารสไตล์เปอรานากันแบบตะกั่วป่าแท้ๆ เช่น “จอแร้ง” หรือแกงกะทิกุ้งสดหอมกลิ่นสมุนไพร, น้ำชุบหยำกุ้งสด และปลาเจี๋ยนรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม
PRU รักษาสถานะ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” เอาไว้ได้ โดยเป็นร้านอาหารแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ได้รับรางวัลนี้
PRU (พรุ) ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินในจังหวัดภูเก็ต คว้ารางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยรางวัลนี้มอบให้กับร้านอาหารที่ดำเนินกิจการและมีแนวปฏิบัติประจำวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หนึ่งในโครงการริเริ่มที่โดดเด่นของ PRU คือ “พรุจำปา” สวนผักออร์แกนิคพื้นบ้านของทางร้านที่ใช้ปลูกพืชผัก สมุนไพร และดอกไม้สำหรับประกอบอาหาร ฟาร์มแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นแนวคิดและวิถีการเกษตรอย่างยั่งยืน (Permaculture) ที่ PRU ยึดมั่นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ยังตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น การใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่น 100% ในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร ทำให้การรับประทานอาหารที่ PRU เป็นประสบการณ์ที่ผสานรสชาติอันเป็นเลิศเข้ากับความมุ่งมั่นใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยบทบาทและวิสัยทัศน์ดังกล่าว ร้านอาหารแห่งนี้จึงมีบทบาทโดดเด่นในฐานะแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักชิมและธุรกิจร้านอาหารในวงกว้าง
ผู้คว้ารางวัล MICHELIN Guide Thailand Young Chef Award ประจำปี 2565:
การิมา อาโรรา (Garima Arora) จากร้าน Gaa
เชฟการิมาเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2529 เป็นชาวอินเดียโดยกำเนิด ถือเป็นเชฟหญิงชาวอินเดียคนแรกที่คว้าดาวมิชลินมาครองได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 อาหารที่เชฟการิมารังสรรค์เน้นไปที่การนำเทคนิคประกอบอาหารแบบอินเดียดั้งเดิมมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบที่หาได้ภายในท้องถิ่น เชฟการิมาเป็นศิษย์เก่าของสถาบันสอนทำอาหารชั้นนำระดับโลก ‘เลอ กอร์ดอง เบลอ’ (Le Cordon Bleu) ในฝรั่งเศส และเคยร่วมงานกับเชฟชื่อดังของโลกหลายราย อาทิ กอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay), เรเน่ เรดเซปิ (René Redzepi) และ กากั้น อนันต์ (Gaggan Anand)
ผู้คว้ารางวัล MICHELIN Guide Thailand Service Award ประจำปี 2565:
ทีโบ ชารล์มาที (Thibaud Charlemarty) จากร้าน Côte by Mauro Colagreco
ผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ ลงความเห็นว่าทีมบริการลูกค้าภายใต้การนำของ มร.ชาร์เลอมาร์ตี้ มีความเป็นมืออาชีพและผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ลำดับขั้นตอนของการให้บริการจึงดำเนินไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบชนิดไร้ที่ติ พนักงานสุภาพและเข้าถึงง่าย ทั้งยังอธิบายข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงแรงบันดาลใจและกรรมวิธีการปรุงอาหารแต่ละจานได้อย่างชัดเจน องค์ประกอบที่ดีเยี่ยมในภาพรวม ทั้งอาหาร บริการ และบรรยากาศร้าน ล้วนส่งเสริมให้ลูกค้าอยากแวะเวียนกลับมาอีกครั้ง
ผู้สนใจสามารถคลิกดูรายชื่อและข้อมูลร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ ประจำปี 2565 (The MICHELIN Guide Bangkok, Phra Nakhon Si Ayutthaya, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2022) ซึ่งจัดทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ทางเว็บไซต์ https://guide.michelin.com/th/th สำหรับคู่มือแบบรูปเล่มจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละ 650 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
สรุปจำนวนร้านอาหารที่ได้รับรางวัลจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ ประจำปี 2565
ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 6 ร้าน
ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 26 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 6 ร้าน)
ร้านอาหาร ดาวมิชลินรักษ์โลก จำนวน 1 ร้าน
ร้านอาหารรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 133 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 33 ร้าน และเลื่อนระดับ 6 ร้าน)