แวนเทจ (Vantage) โบรกเกอร์ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภทสำหรับสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ประกาศบริจาคเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการคุ้มครองและการตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้ลี้ภัยและคนไร้สัญชาติในออสเตรเลีย ปัจจุบัน ออสเตรเลียรองรับผู้ลี้ภัยเกือบ 55,000 คน รวมถึงผู้แสวงหาที่ลี้ภัยอีก 90,000 คน (ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลางหรือเอเชีย) โดยในจำนวนนี้ 8,000 คนไร้สัญชาติ

คุณไน จิต ลัม (Nai Jit Lam) รองผู้แทน UNHCR ประจำออสเตรเลีย ได้แสดงความขอบคุณต่อแวนเทจสำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของแวนเทจ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ไม่ได้รับการเหลียวแล และต้องการทางออกอย่างยั่งยืนตลอดหลายปีข้างหน้า” เงินบริจาคจะถูกจัดสรรไปยังส่วนงานต่าง ๆ ของ UNHCR ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการระบุตัวผู้ลี้ภัยที่ต้องการตั้งถิ่นฐานใหม่ การให้คำปรึกษาและให้ข้อมูลสำหรับผู้ลี้ภัย การลงทะเบียนและการจัดการข้อมูล การสัมภาษณ์เพื่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ ตลอดจนสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการตั้งถิ่นฐานใหม่จะมีความคล่องตัวตั้งแต่การระบุตัวตนไปจนถึงการส่งต่อเคส  วัตถุประสงค์หลักของโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียนั้น มุ่งเน้นไปที่การหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับผู้ลี้ภัยที่เข้าเกณฑ์การบริหารจัดการของออสเตรเลีย รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับการคุ้มครองผู้ลี้ภัยและคนไร้สัญชาติในออสเตรเลีย ตลอดจนให้คำปรึกษาโดยตรงแก่ผู้ลี้ภัย

คุณแจ็ก เคลลี (Jack Kelly) หัวหน้าฝ่ายขายของแวนเทจ แสดงความกระตือรือร้นที่ได้ร่วมมือกับ UNHCR โดยกล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนความพยายามของ UNHCR ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้” “เราตระหนักดีว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ เรามีความพร้อมในการตอบแทนชุมชนของเรา และหลักการสำคัญที่ชี้นำเราบนเส้นทาง ESG ก็คือการสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งรวมถึงผู้ลี้ภัยที่กำลังมองหาความช่วยเหลือ” การบริจาคในครั้งนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการสนับสนุนและคุ้มครองผู้ลี้ภัยในออสเตรเลีย และมีความสอดคล้องกับพันธกิจอื่น ๆ ภายใต้โครงการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ของแวนเทจ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 และกลายเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทในที่สุด

ทั้งนี้ หลังจากเริ่มเดินบนเส้นทาง ESG แวนเทจก็ได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์คนดังอย่างซูเปอร์คาร์ บลอนดี (Supercar Blondie) ในโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศหญ้าทะเลที่มีความสำคัญ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงในระหว่างสัปดาห์การแข่งรถออฟโร้ดเอ็กซ์ตรีม อี (Extreme E) ในแคว้นซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี และในปีเดียวกัน บริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับองค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงกัน