ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 เมื่อเฮอร์มานน์ ไซมอน (Hermann Simon) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการชาวเยอรมันได้ศึกษามาตุภูมิของเขา ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดของโลก และเสนอแนวคิด “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” (hidden champion) เขาอาจนึกไม่ถึงว่าจีนซึ่งมีฐานอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ จะกลายเป็นแหล่งรวม “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” จำนวนมากในเวลาอีกกว่า 30 ปีให้หลัง ศูนย์การสื่อสารวัฒนธรรมเหอเหอ (Global Communication Center of Hehe Culture) เปิดเผยว่า ขณะนี้จีนมีวิสาหกิจที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางและผลิตสินค้าใหม่ไม่เหมือนใครมากกว่า 70,000 แห่ง รวมถึง “ยักษ์น้อย” ภาคอุตสาหกรรมประมาณ 9,000 แห่ง องค์กรเหล่านี้มีส่วนร่วมอย่างมากในสาขาอุตสาหกรรมพื้นฐาน ทั้งยังครองส่วนแบ่งตลาดมาก และมีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคล้ายกับ “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ตามที่เฮอร์มันน์ ไซมอน นิยามไว้
แล้วจีนมี “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” เพิ่มขึ้นจำนวนมากในเวลาเพียง 30 ปีได้อย่างไร หากเฮอร์มันน์ ไซมอน มีโอกาสไปเยือนเมืองไท่โจวในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทางตะวันออกของจีน เขาจะได้รับคำตอบเป็นอย่างดี เมืองอันเก่าแก่นี้ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล มีกลุ่มอุตสาหกรรม 27 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีมูลค่าผลผลิตมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน ไม่ว่าจะเป็นยา รถยนต์ เครื่องมือเครื่องจักร และแม่พิมพ์ เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” 35 ราย รวมถึงองค์กรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับประเทศที่ผลิตสินค้าใหม่และไม่เหมือนใคร 90 แห่ง โดยผลิตภัณฑ์ 307 รายการที่ผลิตในเมืองนี้กวาดส่วนแบ่งตลาดไปได้มากที่สุดทั้งในและต่างประเทศ ในโชว์รูมผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งของบริษัทพรีเชียส เทคโนโลยี กรุ๊ป (Precious Technology Group) ในเมืองไท่โจว ครึ่งหนึ่งของห้องแห่งนี้เต็มไปด้วยจักรเย็บผ้าเกรดอุตสาหกรรมวัสดุหนาที่มีฟังก์ชันต่าง ๆ มากมาย โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทแห่งนี้ได้รับการยกย่องเป็น “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ของมณฑลเจ้อเจียง เมื่อประเมินจากข้อได้เปรียบในสาขาผลิตภัณฑ์จักรเย็บผ้าเกรดอุตสาหกรรมวัสดุหนา
หลัว อี้หมิง (Luo Yiming) รองประธานและหัวหน้าวิศวกรของกลุ่มบริษัทฯ กล่าวว่า “อุปกรณ์อัดรีดของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมอุปกรณ์ปรับแต่งแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เราคิดค้นขึ้นเอง ทำให้เคลื่อนย้ายวัสดุหนาขึ้นด้านบนได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศที่มีฟังก์ชันคล้ายกันจำเป็นต้องหยุดการผลิตก่อน ถึงจะใช้ประแจและเครื่องมืออื่น ๆ ปรับ ซึ่งไม่สะดวกนัก” และเสริมว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีราคาเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นเมื่อเทียบกับของที่อื่น ห่างจากบริษัทพรีเชียส เทคโนโลยี กรุ๊ป ออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร ก็มี “ยักษ์น้อย” เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มอีกราย นั่นคือเจซีไทม์ส กรุ๊ป (JCtimes Group) ในประเทศจีน มีเพียงแม่พิมพ์อัดขึ้นรูปพลาสติกที่ผลิตโดยเจซีไทม์ส กรุ๊ป เท่านั้นที่ให้ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงได้ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตแบ็คเพลนของแบรนด์โทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ๆ ในจีน ฟิล์มที่ว่านี้ดูบางเหมือนกระดาษ แต่จริง ๆ แล้วซ้อนกันหลายร้อยชั้น โดยหลังจากที่ได้พัฒนามากว่า 20 ปี เจซีไทม์สได้กลายเป็นหนึ่งในสามธุรกิจชั้นนำของโลกในตลาดนี้
การจับตาดูช่องว่างทางการตลาด มุ่งพัฒนาสาขาเฉพาะทาง และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง คือหนทางที่เปิดกว้างเพื่อให้ “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ของไท่โจวอย่างพรีเชียส เทคโนโลยี กรุ๊ป และเจซีไทม์ส กรุ๊ป โดดเด่นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการเติบโตทางอุตสาหกรรมขององค์กรในเมืองไท่โจวก็มีปัจจัยซ่อนเร้นอยู่มากมาย “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ของไท่โจวมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมกล้าได้กล้าเสียที่ยาวนานและเข้มแข็ง นับตั้งแต่มีการปฏิรูปและเปิดกว้าง เมืองไท่โจวได้ให้กำเนิดบริษัทร่วมหุ้นแห่งแรกของประเทศ บริษัทรถยนต์เอกชนแห่งแรก ธนาคารพาณิชย์เอกชนแห่งแรก รถไฟความเร็วสูงเอกชนรายแรก ออกเอกสารอย่างเป็นทางการฉบับแรกของประเทศเกี่ยวกับการดำเนินการระบบความร่วมมือเรื่องหุ้น ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแบบฉบับเมืองไท่โจวในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน
ในเมืองไท่โจว โดยเฉลี่ยแล้วไม่ถึง 8 คนจะพบผู้ประกอบการ 1 คน นี่คือรหัสเมืองที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของชาวไท่โจวที่กล้าได้กล้าเสียและทำให้ดีที่สุด “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ของเมืองไท่โจวเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใสและเปิดกว้าง รัฐบาลท้องถิ่นมุ่งมั่นที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการจัดการระดับมหภาคกับกลไกตลาด เปิดโอกาสให้องค์กรเอกชนเติบโตได้อย่างค่อนข้างอิสระ และมุ่งพัฒนาตนเองให้เติบโตได้เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองไท่โจวได้พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีที่สุดให้สอดคล้องกับมาตรฐานของธนาคารโลก และจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งมีความสำคัญสูงสุดในวาระการทำงานของรัฐบาล โดยได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรภาคเอกชนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ของไท่โจวเริ่มต้นด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนา องค์กรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับประเทศที่ผลิตสินค้าใหม่และไม่เหมือนใคร 90 แห่งในเมืองไท่โจว ลงทุนวิจัยและพัฒนาโดยเฉลี่ยคิดเป็นสัดส่วน 5.3% ของรายได้
องค์กรในเมืองไท่โจวยังได้ประโยชน์จากการสนับสนุนจากภายนอก โดยจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในเซี่ยงไฮ้ หางโจว อู่ฮั่น และเมืองใหญ่แห่งอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยทรัพยากรของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่มากมาย จนถึงตอนนี้ เมืองไท่โจวได้สร้างเขตนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 14 แห่งในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และดึงดูดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยได้หลายแห่งให้เข้ามาจัดตั้งแพลตฟอร์มวิจัยและพัฒนา และฐานสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ เมืองไท่โจวยังใช้เครื่องมือดิจิทัลอันทรงพลัง เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและยกระดับองค์กร ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อพัฒนาองค์กรผ่านนโยบายและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และใช้ประโยชน์จากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบเพื่อขยายเค้าโครงและธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ องค์กรจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้เริ่มต้นและพัฒนาอย่างรวดเร็วในดินแดนที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้ไท่โจวเป็นเมืองนำร่องในการส่งเสริมนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมระดับชาติ ความก้าวหน้าของ “ผู้นำตลาดโลกที่รวยเงียบ” ทำให้เมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้กำลังก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก สะท้อนกรณีที่ชัดเจนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์เมดอินไชนา (Made-in-China) ขึ้นใหม่
ที่มา: ศูนย์การสื่อสารวัฒนธรรมเหอเหอ