กระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของมาเลเซีย มีความยินดีที่จะประกาศผู้ชนะรางวัล เนชันแนล เอ็นเนอร์จี อวอร์ดส์ (National Energy Awards หรือ NEA) ประจำปี 2565 เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่โอบรับและลงทุนในแนวปฏิบัติด้านพลังงานที่ยั่งยืน รางวัลนี้ได้รวบรวมแนวคิดและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและมองการณ์ไกลของนักธุรกิจแถวหน้าในมาเลเซีย ทั้งในด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในปีนี้มีการมอบรางวัลรวม 20 รางวัล ใน 3 สาขา ให้แก่บุคคลทั่วไป ภาคธุรกิจ องค์กร รวมถึงสถาบันอุดมศึกษาในมาเลเซีย โดยในครั้งนี้มีผู้ชนะรวมทั้งสิ้น 12 กลุ่มที่ได้รับรางวัลในสาขาการจัดการพลังงาน อาคารประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน ในการประกาศรางวัล เนชันแนล เอ็นเนอร์จี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 5 ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศในสาขาที่ 1 (การจัดการพลังงาน) ได้แก่ บริษัท เมดิเวสต์ (Medivest Sdn Bhd) ในประเภทการจัดการพลังงานในอาคารขนาดใหญ่ ณ โรงพยาบาลปาการ์ สุลตานะห์ ฟาติมะห์ (Hospital Pakar Sultanah Fatimah หรือ HPSF) และบริษัท ซีเอสซี สตีล (CSC Steel Sdn Bhd) ในประเภทการจัดการพลังงานระดับอุตสาหกรรม เพื่อการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
สำหรับสาขาที่ 2 (อาคารประหยัดพลังงาน) รางวัลชนะเลิศตกเป็นของหอประชุมมูลนิธิฉือจี้ (Tzu Chi Jing Si Hall) ในเมืองเกปง โดยบริษัท บีกรีน คอนซัลแทนซี (BGreen Consultancy) ในประเภทอาคารสีเขียวขนาดใหญ่ และศูนย์กีฬาอัสตากา (Kompleks Sukan Astaka) ของสภาเทศบาลเมืองเปตาลิงจายา ในประเภทอาคารใช้พลังงานเป็นศูนย์ส่วนสาขาที่ 3 (พลังงานหมุนเวียน) ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศคือ บริษัท คอนคอร์ด กรีน เอ็นเนอร์จี (Concord Green Energy) ในประเภทโครงข่ายไฟฟ้าออนกริดระดับประเทศ จากโครงการโรงงานก๊าซชีวภาพคอนคอร์ด เอฟจีวี เกราตอง 2: ศูนย์วิจัยและพัฒนาความเป็นเลิศ (Concord FGV Keratong 2 Biogas Plant: The R&D Center of Excellence) และบริษัท เตนากา เนชันแนล เบอร์ฮาด (Tenaga Nasional Berhad) ในประเภทโครงข่ายไฟฟ้าออนกริดระดับท้องถิ่น จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำขนาดเล็กบนเกาะเตียวมัน
หลังจากนี้ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาที่ 1 และ 2 จะได้เป็นตัวแทนของมาเลเซียในการชิงรางวัล อาเซียน เอ็นเนอร์จี อวอร์ดส์ (ASEAN Energy Awards หรือ AEA) ต่อไปดาตุก ซรี ทากิยุดดิน บิน ฮัสซัน (YB Datuk Seri Takiyuddin bin Hassan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของมาเลเซีย กล่าวสุนทรพจน์ว่า “รางวัลสูงสุดสำหรับความเป็นเลิศด้านพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือรางวัล อาเซียน เอ็นเนอร์จี อวอร์ดส์ และผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ของมาเลเซียเข้ามามีบทบาทในระดับภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบธุรกิจในมาเลเซียจำนวนมากกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาในภาคการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในระดับภูมิภาค”
“มาเลเซียเริ่มทำภารกิจด้านพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในฐานะพลังงานทางเลือก เราต้องสนับสนุนแนวปฏิบัติด้านพลังงานที่ยั่งยืนในทุกภาคส่วน ทุกอุตสาหกรรม และทุกองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมาเลเซียในการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยคาร์บอน ควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนทางเลือก ซึ่งจะช่วยให้มาเลเซียสามารถก้าวไปบนเส้นทางสู่การใช้พลังงานที่สะอาดมากขึ้นตามมาตรฐานสากล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล เนชันแนล เอ็นเนอร์จี อวอร์ดส์ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ https://www.nationalenergyawards.com.my/
