เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และองค์ประธานคณะกรรมการบริษัทนิอุม (NEOM) ได้เผยโฉมการออกแบบชุมชน เดอะ ไลน์ (THE LINE) ซึ่งเป็นการพลิกโฉมเมืองสู่ความศิวิไลซ์โดยให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก พร้อมมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตในเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ควบคู่กับการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยรอบ โดยเมื่อเดือนมกราคม 2564 เจ้าชายโมฮัมเหม็ดได้นำเสนอแนวคิดและวิสัยทัศน์เบื้องต้นเของชุมชนแห่งนี้ ซึ่งกำหนดนิยามใหม่ของการพัฒนาเมืองและภาพของเมืองแห่งอนาคต การออกแบบ เดอะ ไลน์ สะท้อนภาพชุมชนเมืองในอนาคต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไร้ถนน รถยนต์ และมลพิษ โดยจะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนมากกว่าการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอย่างเมืองในรูปแบบเดิม ๆ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากกว่าการพัฒนา โดยจะช่วยอนุรักษ์พื้นที่ 95% ของเมืองใหม่นิอุม
การประกาศครั้งนี้เผยให้เห็นถึงองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ เดอะ ไลน์ ชุมชนที่มีความกว้างเพียง 200 เมตร แต่ทอดยาว 170 กิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เดอะ ไลน์ จะรองรับผู้อยู่อาศัย 9 ล้านคน บนพื้นที่ 34 ตารางกิโลเมตร ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองอื่น ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน โดยจะช่วยลดการใช้โครงสร้างพื้นฐานและเสริมประสิทธิภาพของเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ สภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยตลอดทั้งปียังเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเดินชมธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน ตลอดจนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดใน เดอะ ไลน์ โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที อีกทั้งยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เวลาเดินทางจากต้นทางถึงปลายทางเพียง 20 นาทีเท่านั้น
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ตรัสว่า “ในการเปิดตัว เดอะ ไลน์ เมื่อปีที่แล้ว เรามุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมเมืองสู่ความศิวิไลซ์โดยให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก ด้วยการเปลี่ยนแปลงการวางผังเมืองขนานใหญ่ การออกแบบที่ได้รับการเผยโฉมในวันนี้แสดงให้เห็นถึงการสร้างชุมชนแนวตั้งที่แบ่งเป็นชั้น ๆ ซึ่งจะท้าทายเมืองแนวราบแบบเดิม ๆ และต่อยอดเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ธรรมชาติและการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คน เดอะ ไลน์ จะช่วยรับมือกับความท้าทายที่คนเมืองต้องเผชิญในทุกวันนี้ และเผยให้เห็นทางเลือกใหม่ในการใช้ชีวิต””เราไม่อาจละเลยวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่เมืองต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ และนิอุมก็เป็นแนวหน้าในการนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นิอุมรวบรวมผู้ที่มีความคิดเฉียบแหลมในด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง เพื่อต่อยอดแนวคิดให้กลายเป็นความจริง”
“นิอุมจะเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้สร้างความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์และล้ำสมัย โดยนิอุมยังคงเป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดภายใต้วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบียปี 2573 (Saudi Vision 2030) และพันธกิจของเราในการพัฒนา เดอะ ไลน์ ในนามของประเทศยังคงดำเนินไปอย่างแน่วแน่”เดอะ ไลน์ นำเสนอแนวทางใหม่ในการออกแบบเมือง นั่นคือแนวคิดการวางผังเมืองแนวตั้ง พร้อมทั้งให้ผู้คนสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นในสามมิติ (ขึ้น ลง และแนวราบ) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เรียกว่า “ซีโร่ กราวิตี้ เออร์บันนิซึม” (Zero Gravity Urbanism) โดยไม่ได้มีเพียงการสร้างอาคารสูงเท่านั้น แต่ยังมีการแบ่งสวนสาธารณะ ทางเดินเท้า โรงเรียน ที่อยู่อาศัย และที่ทำงานออกเป็นชั้น ๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันโดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น เดอะ ไลน์ ออกแบบด้านนอกเป็นกระจก ซึ่งจะเผยลักษณะเฉพาะตัวและยังกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ส่วนการตกแต่งภายในจะเน้นการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษและช่วงเวลาอันมหัศจรรย์ ผ่านการรังสรรค์โดยทีมงานที่ประกอบด้วยสถาปนิกและวิศวกรที่มีชื่อเสียงระดับโลกภายใต้การนำของนิอุม เพื่อพัฒนาแนวคิดเมืองแห่งอนาคตที่สั่นสะเทือนวงการ
เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจ การออกแบบเมืองจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมด ส่วนการก่อสร้างจะผสานความเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยใช้กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ล้ำสมัย การเผยโฉมการออกแบบ เดอะ ไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของนิอุมในการพัฒนาโครงการระดับเรือธง เช่น โครงการอ็อกซากอน (OXAGON) เมืองแห่งการผลิตและนวัตกรรมที่ผ่านการตีโจทย์ใหม่ และ โทรเจนา (TROJENA) จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวภูเขาระดับโลก รองรับการเล่นสกีกลางแจ้งแห่งแรกในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ รวมถึงการเปิดตัวบริษัทในเครือนิอุมสองแห่ง ได้แก่ เอโนวา (ENOWA) ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงาน น้ำ และไฮโดรเจน และ นิอุม เทค แอนด์ ดิจิทัล คอมพานี (NEOM Tech & Digital Company)