เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา วัคซีนโควิด-19 ชนิดตัดต่อโปรตีน (เซลล์เอสเอฟ9 หรือ Sf9) แบบสามสายพันธุ์ (XBB.1.5+BA.5+Delta) อย่าง Coviccine® ซึ่งพัฒนาโดยเวสต์แวค ไบโอฟาร์มา (WestVac Biopharma) / ศูนย์การแพทย์จีนตะวันตก (West China Medical Center) มหาวิทยาลัยเสฉวน (Sichuan University) ได้รับการอนุมัติจากทางการจีนให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) ได้ นับเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรกในโลกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ XBB ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจีนเป็นผู้นำของโลกในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19
เวสต์แวค ไบโอฟาร์มา และบริษัทย่อย เวสต์แวค ไบโอฟาร์มา (กวางโจว) ใช้ประโยชน์จากการตอบสนองที่รวดเร็วของแพลตฟอร์มการแสดงออกของเซลล์แมลง ในการสร้างเวคเตอร์พาหะสำหรับวัคซีนโควิด-19 สามสายพันธุ์ (XBB.1.5+BA.5+Delta) ชนิดตัดต่อโปรตีน (เซลล์เอสเอฟ9) รุ่น Coviccine® ซึ่งมีความบริสุทธิ์และคุณภาพสูงสำหรับใช้ในมนุษย์ แอนติเจนวัคซีนจากส่วนหนึ่งของเชื้อ (subunit vaccine) นี้ออกแบบมาอย่างแม่นยำโดยอิงจากโครงสร้างของโปรตีนมุ่งเป้า เอส-อาร์บีดี (S-RBD) และเอชอาร์ (HR) ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยอย่าง XBB.1.5 และ BA.5 และสามารถประกอบร่างเองเป็นอนุภาคโปรตีนสามหน่วยย่อยที่เสถียร โดยเพิ่มสารเสริมอิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำที่มีสควาลีนเข้ามาหลังจากทำให้บริสุทธิ์และผสมแล้ว สารเสริมประสิทธิภาพตัวนี้ช่วยเพิ่มค่าไตเตอร์ของแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ ซึ่งทำให้วัคซีนแบบไตรเมอริกโปรตีนตัวนี้กระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทีเซลล์ (T-cell) ในระดับที่สูงขึ้นได้ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า วัคซีน Coviccine® Trivalent XBB.1.5 กระตุ้นให้ได้ค่าไตเตอร์ของแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ระดับสูงในการต้านหลายสายพันธุ์ย่อย ประกอบด้วย โอมิครอน (Omicron) XBB.1.5, XBB1.16, XBB1.9.1, XBB.2.3, BA.5, BF.7, BQ.1 และ BA.2.75 ซึ่งหลังจากที่ฉีดวัคซีนตัวนี้ไป 14 วันแล้ว ประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์ XBB.1, XBB.1.5, XBB1.9 ก็สูงถึง 93.28% ทั้งยังมีความปลอดภัยในระดับที่ดีเยี่ยม บ่งชี้ว่าเป็นวัคซีน-19 ที่ครอบคลุมกว้างขวางในการต้านหลายสายพันธุ์ย่อยที่แพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ
ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ XBB.1.5 ค่อย ๆ กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในส่วนต่าง ๆ ของโลกมาตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยทีมวิทยาศาสตร์ของเวสต์แวค ไบโอฟาร์มา/ศูนย์การแพทย์จีนตะวันตกในสังกัดมหาวิทยาลัยเสฉวน ได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนจากทีมวิจัยและพัฒนาวัคซีนของหน่วยงานป้องกันและควบคุมของสภาแห่งรัฐ จนเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดและประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนที่ครอบคลุมสายพันธุ์ XBB ได้ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (China CDC) สังเกตว่า ความสามารถในการแพร่เชื้อและการหลบหนีทางภูมิคุ้มกันของสายพันธุ์ XBB นั้นแข็งแกร่งกว่าสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดในช่วงแรก ๆ มาก โดยขณะนี้ XBB.1 เป็นไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมากทั่วโลก ซึ่ง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมนั้น ไวรัสสายพันธุ์ XBB คิดเป็น 98.1% ของสายพันธุ์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศจีน สายพันธุ์ XBB ที่ตรวจพบใหม่ได้เพิ่มขึ้นทีละน้อย และปัจจุบันเกิน 90% แล้ว
ด้านคณะที่ปรึกษาทางเทคนิคขององค์การอนามัยโลกว่าด้วยองค์ประกอบของวัคซีนโควิด-19 (TAG-CO-VAC) ให้คำแนะนำเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมว่า วัคซีนโควิด-19 สูตรใหม่ ๆ ควรมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของแอนติบอดีลบล้างสายพันธุ์ XBB โดยอัตรา “การติดเชื้อครั้งที่สอง” กำลังเพิ่มสูงขึ้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงเรียกร้องให้เร่งป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้รับวัคซีนที่ครอบคลุมไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ต่าง ๆ เวสต์แวค ไบโอฟาร์มา ใช้แพลตฟอร์มวัคซีนรีคอมบิแนนต์โปรตีนแบบใช้เซลล์แมลงที่มีความล้ำหน้าในระดับสากล เพื่อพัฒนาวัคซีน Coviccine® Trivalent XBB.1.5 ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉินแล้วในประเทศจีน วัคซีนโควิด-19 ของเวสต์แวคนำเสนอทางเลือกที่ไม่เหมือนใครในการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันสายพันธุ์ XBB ที่กำลังระบาดหนักในปัจจุบัน และมีส่วนสำคัญในการจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย