กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนหลังฝนตกจากพายุฤดูร้อน อาจมีน้ำขังตามภาชนะหรือวัสดุต่างๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ขอให้ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่อง โดยการสำรวจบริเวณรอบๆ ตัวบ้านและในชุมชน และใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” เพื่อป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลาย
วันนี้ (8 มีนาคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังฝนตกจากพายุฤดูร้อนในบางพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้ในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำขังอยู่ตามเศษภาชนะหรือวัสดุต่างๆ เช่น กล่องโฟม แก้ว ถุงพลาสติก ยางรถยนต์เก่า ถ้วยหรือกะลารองน้ำยางดิบ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลาย โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก ขอให้ประชาชนเก็บกวาดและทำลายเศษขยะหรือภาชนะเหล่านั้นให้เกลี้ยง เพื่อไม่ให้ยุงลายใช้เป็นที่วางไข่เพาะพันธุ์ลูกน้ำให้เติบโต ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อโรคติดต่อนำโดยยุงลายได้ สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกตั้งแต่ 1 มกราคม–28 กุมภาพันธ์ 2564 พบผู้ป่วยแล้ว 1,470 ราย เสียชีวิต 1 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด ได้แก่ 15-24 ปี รองลงมา 25-34 ปี และ 10-14 ปี ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ แม่ฮ่องสอน กรุงเทพฯ ชลบุรี นครปฐม และระยอง ตามลำดับ หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม-กุมภาพันธ์ 63) พบผู้ป่วย 6,644 ราย เสียชีวิต 4 ราย จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นผลมาจากประชาชนส่วนใหญ่อยู่บ้านเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 และใช้โอกาสที่อยู่บ้านทำความสะอาดบ้านและบริเวณรอบๆ รวมถึงกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายไปด้วย
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลายนั้น ขอให้ประชาชนสำรวจพื้นที่ที่มีน้ำขัง และร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณรอบๆ ตัวบ้านและในชุมชน โดยเก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้ 1.เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดำ และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และ 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา
ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และโรคโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย รับประทานยาลดไข้ 1-2 วัน โดยให้เลือกรับประทานยาแก้ไข้พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงการทานยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน แอสไพริน เพราะถ้าเป็นไข้จากโรคไข้เลือดออกยากลุ่มนี้จะส่งผลทำให้การรักษายุ่งยากและเสี่ยงต่อการทำให้มีอาการหนักมากยิ่งขึ้น หากทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
Post Views: 393