มหานครอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอินชอน จัดงาน INCHEON NIGHT IN THAILAND ขึ้น
ณ โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Baig Hyeon (เบก ฮยอน) ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอินชอน Incheon Tourism Organization (ITO) MR. KIM DUHYEON (คิม ดู ฮยอน) ผู้อำนวยการฮัน ชัง ฮุนIncheon Metropolitan City พร้อมด้วยMR. PARK YONG-MIN (ปาร์ค ยอง มิน) เอกอัคราชทูตเกาหลีในประเทศไทย Korea Embassy MR. PARK SUNG-HEE (ปาร์ค ซอง ฮี) กงศุลใหญ่ Korea Embassy และ ดร. เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานร่วมเปิดงานด้วยในการนี้ ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่าง องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอินชอน (ITO)
โดย Mr. Baig Hyeon (เบก ฮยอน) ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอินชอน และบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งสิ้น 4 บริษัท ลงนามร่วมกัน (เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา) ดังนี้1. Sun Moon Tours & Travel CO.,LTD. โดย คุณกิตติวงศ์ สุทธิบุตร MANAGING DIRECTOR 2. Plern Plern CO.,LTD. โดย นางสาวเบญญาภา บุญวัฒนสิทธิ CEO3. GO365 Travel CO.,LTD.. โดย นายธนพล ชีวรัตนพร MANAGING DIRECTOR 4. S.B.A. TRAVEL CO.,LTD.
โดย นายธราภูชิสส์ เอื้อศรีทองกุล CEOหลังจากเสร็จพิธีลงนามในข้อตกลง MOU แล้ว Mr. Baig Hyeon (เบก ฮยอน) ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอินชอน Incheon Tourism Organization (ITO) MR. KIM DUHYEON (คิม ดู ฮยอน) ผู้อำนวยการฮัน ชัง ฮุน Incheon Metropolitan City ได้ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามกับสื่อมวลชนด้วยทั้งนี้ ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมเพื่อมอบความสนุกสนาน และลุ้นรางวัล Luky draw ให้แก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย รวมถึง การบรรยายสรุปเรื่องการท่องเที่ยวเมืองอินชอน นำเสนอแง่มุมที่มีชีวิตชีวา และความเชี่ยวชาญของอินชอน พร้อมกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยม อินชอนมีความโดดเด่นทั้งในด้านประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ เป็นประตูสู่ดินแดนต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอนและเจริญเติบโตขึ้นกลายเป็นเมืองท่า ที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นและต่างประเทศ ปัจจุบัน ในฐานะประตูสู่นานาชาติที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นสนามบินนานาชาติอินชอน ท่าเรืออินชอน และท่าเรือสำราญ เมืองนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนเกาหลีมากกว่า 70% มีเกาะสวยงาม 168 เกาะ และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายตั้งแต่ยุคราชวงศ์โครยอจนถึงยุคปัจจุบัน อาทิ ไชน่าทาวน์ ท่าเรือ และย่านกังฮวา นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองเฉพาะสำหรับไมซ์ (การประชุม การให้รางวัล การสัมมนา และจัดนิทรรศการ) รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับท็อปคลาสของไมซ์และสถาบันทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งดึงดูดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จำนวนมากทุกปี อินชอน เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีที่มีชื่อเสียงมากมาย อย่างเช่น Squid Game, Goblin และ The Glory ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix
นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นเมืองประตูสู่เกาหลี ที่ตั้งของสนามบินนานาชาติอินชอน ท่าเรืออินชอน และท่าเรือสำราญ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 70% เดินทางมามาเยือนในปี 2018 เมืองนานาชาติซงโด (Songdo International City) ของอินชอน ยังได้รับเลือกให้เป็นศูนย์การประชุมนานาชาติ และในปี 2020 เมืองนี้ถูกกำหนดให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวอัจฉริยะแห่งแรก อีกทั้งในปี 2022 เมืองนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นเมืองแรกที่เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวยามค่ำคืนอีกด้วยและด้วยการขยายตัวของตลาดความบันเทิง และการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ซึ่งเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับเกาหลีมากยิ่งขึ้น อินชอนจะเป็นสถานที่ซึ่งให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับการเดินทางข้ามเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจจากท่าเรือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผ่านสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใครและเมืองอัจฉริยะอันทันสมัยของ Songdo International City ทั้งยังเป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์อาหารทะเลแบบสดใหม่จากแหล่งท้องถิ่น จิงจูฉ่ายออร์แกนิก โสม และอาหารเพื่อสุขภาพอื่น ๆ พร้อมกันนี้หากชื่นชอบการสำรวจและสัมผัสประสบการณ์อันแตกต่าง คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่า ตั้งแคมป์ แบกเป้ และอื่น ๆ บนเกาะที่มีธรรมชาติอันสะอาดบริสุทธิ์ได้อีกด้วยอีกทั้งในปี 2566-2567 ได้มีการกำหนดให้เป็นปีแห่งการเยี่ยมเยือนร่วมกันระหว่างเกาหลีและไทย ซึ่งครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างไทยและเกาหลี ตลอดจนส่งเสริมให้อินชอนเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการเดินทางไปเยือน ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าของอินชอน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหลังโควิด-19