ยอดจองที่พักระยะยาวมากกว่า 28 วัน ในย่านนอกเมืองในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบไตรมาส 2/2565 กับไตรมาส 2/2562 นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกงและไต้หวัน ของAirbnb เปิดเผยว่า “เป็นเวลากว่าสองปีนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการเดินทางที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้กับชุมชนท้องถิ่นที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวมีความกระตือรือร้นออกเดินทางไปสำรวจจุดหมายปลายทางใหม่ๆ รวมถึงสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจต่อผู้คนในท้องถิ่น”
“นักเดินทางจะมีการเดินทางในลักษณะกระจายตัวออกไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระจุกตัวอยู่แค่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเท่านั้น โดยเทรนด์ที่เกิดขึ้นนี้มีส่วนช่วยให้คนในท้องถิ่นสร้างรายได้เพิ่มจากการเป็นผู้ให้บริการที่พัก และช่วยให้สามารถรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น เรายังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางเปลี่ยนมุมมองและกล้าออกไปจากเส้นทางที่คุ้นเคย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับชุมชนจำนวนมากว่าพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง” ในปัจจุบันผู้คนเริ่มเปิดรับแนวทางใหม่ที่มีความยืดหยุ่นในการท่องเที่ยวและการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำให้ชุมชนที่อาจถูกมองข้ามเริ่มกลับมาอยู่ในความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ Airbnb จึงได้จัดทำรายงานล่าสุด หัวข้อ Further Afield: Spreading the Benefits of the Travel Revolution ซึ่งพบว่าคนในท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคจะได้รับโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อรับมือกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
รายงานพบว่า การจองที่พัก Airbnb ในย่านนอกเมืองเพิ่มขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงรายได้โดยรวมของผู้ให้บริการที่พักในย่านนอกเมืองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่มองหาจุดหมายปลายทางนอกเมือง แต่ยังมีระยะเวลาในการเข้าพักที่นานขึ้นด้วย ทั้งนี้ การจองที่พักระยะยาว (การเข้าพักมากกว่า 28 วัน) ในย่านนอกเมืองในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบไตรมาส 2/2565 กับไตรมาสเดียวกันในปี 2562
นอกเหนือจากเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีจุดหมายปลายทางอีกหลายแห่งที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางบน Airbnb ในการเข้าพักระยะยาวในไตรมาส 2/2565 เช่น เกาะพะงัน เกาะลันตา และกระบี่ ประเทศไทย, ในประเทศมาเลเซีย อาทิ เมืองอิโปห์, เมืองกัวห์บนเกาะลังกาวี, เซเมนยีห์ และพอร์ทดิกสัน และในประเทศฟิลิปปินส์ อาทิ เมืองดาปา, ปังเลา, ดูมาเกเตและซีลัง ข้อมูลภายในล่าสุดของ Airbnb แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวมีความสนใจอยากออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ในประเทศไทยอย่างเกาะลันตา ตราด ปาย และชะอำ ด้านข้อมูลจากรายงาน Economist Impact ที่จัดทำเพื่อ Airbnb ระบุว่า นักเดินทางคนไทยมากกว่า 70% วางแผนท่องเที่ยวในประเทศไปยังจุดหมายปลายทางแถบชนบทให้บ่อยขึ้นซึ่งเป็นสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักในปัจจุบัน และจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ใน 3 ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง
นอกจากนี้ Airbnb ยังมีนวัตกรรมของเครื่องมือค้นหาที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้ง่ายขึ้นบนแพลตฟอร์ม อาทิ การแบ่งหมวดหมู่ที่พัก และ I’m Flexible ทั้งนี้ Airbnb ที่ยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับรัฐบาลและชุมชนต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศอินโดนีเซียในโครงการ Live and Work Anywhere เพื่อดึงดูดดิจิทัลโนแมดและกลุ่มคนทำงานทางไกลจากทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Airbnb ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมามีความคึกคักอีกครั้ง