Airbnb ยกประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับการทำงานทางไกลระดับโลก เตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลออนไลน์ของประเทศไทยสำหรับกลุ่มคนทำงานทางไกล เผยในไตรมาส 1 ปี 2565 นักเดินทาง solo travel จากต่างประเทศค้นหาที่พักระยะยาวในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 Airbnb ประกาศความร่วมมือกับ 20 จุดหมายปลายทางทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพื่อให้นักเดินทางใช้ชีวิตและทำงานได้ทุกที่ง่ายยิ่งขึ้น โดยต้นปีที่ผ่านมา Airbnb ได้เปิดตัวโครงการ Live and Work Anywhere เพื่อช่วยส่งเสริมจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับคนทำงานทางไกล หรือ remote worker ในระดับโลกรวมถึงสนับสนุนรัฐบาลและองค์กรส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวในเมืองต่าง ๆ เพื่อการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนหลังจากต้องเผชิญข้อจำกัดด้านการเดินทางมาเกินกว่า 2 ปี
สำหรับประเทศไทย Airbnb ได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อย่างใกล้ชิดและจะริเริ่มโครงการต่างๆ ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เช่น การสร้างศูนย์ข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับประเทศไทย แสดงที่พักระยะยาวชั้นนำในแต่ละท้องถิ่น รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศและข้อมูลวีซ่าเพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานทางไกล โดยความร่วมมือกับประเทศไทยครอบคลุมถึงการรณรงค์ให้ความรู้แก่โฮสต์และคนที่ทำงานระยะไกล เพื่อส่งเสริมการให้บริการที่พักและการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบ โดยคาดว่าจะเปิดตัวศูนย์ข้อมูลออนไลน์ของประเทศไทยภายในปีนี้
นายเนธาน เบลชาร์ซิค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Airbnb เปิดเผยว่า “ช่วง 2 ปีตั้งแต่เกิดโรคระบาด เราได้เห็นโลกแห่งการเดินทางแนวใหม่ที่ผู้คนทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ โดยในความร่วมมือกับทุกจุดหมายปลายทางนี้ เราต้องการเพิ่มความสะดวกให้ผู้ที่ทำงานทางไกลสามารถทำงานแบบยืดหยุ่น รวมถึงช่วยส่งเสริมการเดินทางอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ การเดินทางจะเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ชุมชนท้องถิ่นและเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่เปิดตัวแคมเปญนี้พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนที่อยากเข้าร่วมเทรนด์ใหม่กับกลุ่มคนนับล้านที่ชอบทำงานและเดินทางอย่างยืดหยุ่น”
ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลกสำหรับคนที่ทำงานนอกสถานที่และนักท่องเที่ยวระยะยาว ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของท้องถิ่นที่มีความพร้อม การเข้าถึงชุมชนได้สะดวกและที่พักที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหลากหลายเหมาะสำหรับการพักอาศัยระยะยาว รวมถึงการต้อนรับที่อบอุ่นและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง ดังที่เราได้มีความพยายามพัฒนาและฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของประเทศ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Airbnb ในโครงการ Live and Work Anywhere ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะยาวมายังประเทศไทย”
20 จุดหมายปลายทาง ที่ Airbnb โปรโมทสำหรับการทำงานทางไกล ได้แก่
- บาฮากาลิฟอร์เนีย เม็กซิโก
- บาหลี อินโดนีเซีย
- บรินดิซิ ปุลยา อิตาลี
- บัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา
- แคริบเบียน
- หมู่เกาะกานาเรียส สเปน
- เคปทาวน์ แอฟริกาใต้
- โคลอมเบีย
- ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- ฟรีอูลี-เวเนเซียจูเลีย อิตาลี
- ลิสบอน โปรตุเกส
- มอลตา
- เม็กซิโกซิตี เม็กซิโก
- ปาล์มสปริงส์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
- ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย
- เมืองชนบทในฝรั่งเศส
- ซัลทซ์คัมเมอร์กูท ออสเตรีย
- แทมปาเบย์ ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
- ประเทศไทย
- ทัลซา โอคลาโฮมา
จุดหมายปลายทางพันธมิตรในความร่วมมือดังกล่าวของ Airbnb ทั่วโลกประกอบด้วยจุดหมายปลายทางในระดับประเทศ ไปจนถึงเมืองเล็กๆ ที่ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง ซึ่งได้ถูกคัดเลือกตามเสน่ห์ดึงดูดคนทำงานทางไกล และความก้าวหน้าด้านนโยบายที่เอื้อแก่ผู้ต้องการอาศัยและทำงานในภูมิภาคอื่น ตลอดจนดึงดูดนักเดินทางแนวใหม่ๆ โครงการริเริ่มนี้ต่อยอดมาจากความร่วมมือของ Airbnb กับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวกว่า 160 แห่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะผ่านการส่งเสริมการทำงานทางไกล ผู้คนนับล้านในปัจจุบันไม่ยึดติดว่าจะต้องทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน เราจึงเห็นนักเดินทางกระจายไปยังเมืองต่างๆ หลายพันแห่งและอยู่กันนานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือตลอดฤดูเลยด้วยซ้ำ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 มีนักเดินทาง solo travel จากต่างประเทศ ค้นหาที่พักระยะยาวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562
ข้อมูลที่น่าสนใจคือในปี 2564 ผู้เข้าพักทั่วโลก 1 ใน 5 คนใช้ Airbnb เพื่อทำงานทางไกลระหว่างการเดินทางซึ่งนับเป็นเทรนด์เติบโตต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1 ปี 2565 ทำให้การเข้าพักระยะยาวเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่าจากไตรมาส 1 ปี 2562 นักเดินทางกลุ่มนี้ “ใช้ชีวิต” ในการเข้าพัก Airbnb และหลายคนก็วางแผนเข้าพักในเมืองต่างๆ กว่า 72,000 แห่งในช่วงฤดูร้อนนี้ อ้างอิงจากงานวิจัยโดย Harvard Business School ระบุว่า กลุ่มดิจิทัลโนแมดกับคนที่ทำงานทางไกลจะไม่เพียงสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจแล้ว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการในชุมชนที่พักอาศัยอยู่และร่วมสร้าง “ชุมชนเทคโนโลยี” ไปทั่วโลก ข่าวนี้ต่อยอดมาจากนโยบายส่งเสริมการทำงานระยะไกลที่ไบรอัน เชสกี ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Airbnb อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ หลังประกาศไปเพียงสัปดาห์แรก มีผู้เข้าเยี่ยมชมหน้าเพจร่วมงานกับ Airbnb กว่า 1 ล้านคน ตอกย้ำเทรนด์ของผู้คนที่ต้องการใช้ชีวิตและทำงานที่ใดก็ได้ ทั้งนี้ ในเดือนหน้านี้ ผู้เข้าร่วมโครงการ Live Anywhere ของ Airbnb จะใช้ชีวิตในที่พัก Airbnb ครบเวลา 1 ปี ซึ่งพวกเขาได้มีการเดินทางไปเยือนสถานที่ต่างๆ เกือบ 80 แห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ไปจนถึงสก็อตแลนด์และเกาหลีใต้