ปารีส  – แอร์เอเชีย ได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกจากงาน Skytrax World Airline Awards 2023 (Skytrax) ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 14  สกายเเทรกซ์ ถือเป็นรางวัลที่ได้รับการยอมรับและยกให้เป็นรางวัลมาตรฐานระดับโลก ที่สะท้อนคุณภาพและความเป็นเลิศในแวดวงธุรกิจการบิน ทั้งนี้การประกาศรางวัลดังกล่าว แอร์เอเชียยังคงได้รับการโหวตสูงสุดจากสายการบินประเภทเดียวกัน ผ่านการคัดเลือกและเปิดโหวตจาก 325 สายการบินทั่วโลก จากนักเดินทางกว่า 100 สัญชาติ กว่า 20.23 ล้านคนที่เข้าร่วมการสำรวจแบบออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ถึงพฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แอร์เอเชียกลับมาให้บริการและขยายเครือข่ายบินอย่างต่อเนื่องจนมีจุดหมายปลายทางกว่า 130 แห่ง 

รางวัลอันทรงเกียรตินี้ตอกย้ำการฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่งของแอร์เอเชีย ด้วยจำนวนเส้นทางบินและปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของแอร์เอเชียในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการให้บริการที่เป็นเลิศท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก ส่งผลให้แอร์เอเชียยังยืนหยัดเป็นสายการบินราคาประหยัดชั้นนำของโลก ที่อยู่ในใจของนักเดินทางที่กำลังหาตัวเลือกในการเดินทางที่คุ้มค่าและดีที่สุด

ในพิธีประกาศผลรางวัล ณ งาน ปารีส แอร์ โชว์ 2023 กรุงปารีส นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแคปปิตอล เอ กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจและขอบคุณรางวัลที่มีคุณค่านี้ ทั้งผู้จัดงานสกายเเทรกซ์ ผู้ลงคะแนน และผู้ที่ให้การสนับสนุนแอร์เอเชียที่มอบความไว้วางใจให้เราเสมอมา การได้รับรางวัลสูงสุด 14 ปีติดต่อกันถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นและท้าทาย เป็นสิ่งที่เติมเต็มหัวใจของเราด้วยความสุข และคอยย้ำเตือนให้เรายังอ่อนน้อมและไม่หยุดในการพัฒนา นี่คือความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาสำหรับทุกบริษัทในทุกอุตสาหกรรม ยิ่งสำหรับแบรนด์ในอาเซียนด้วยแล้ว”

   

นายเอ็ดเวิร์ด เพลสเต็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสกายแทร็กซ์ กล่าวว่า “แอร์เอเชียเป็นสายการบินที่ผู้โดยสารชื่นชอบ และพบว่าจากการสำรวจในตลอดหลายๆปีที่ผ่านมา แอร์เอเชียยังคงมีมาตรฐานที่โดดเด่นสม่ำเสมอ นับตั้งแต่การจัดให้มีรางวัลในประเภทสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก ตั้งเเต่ปี 2553 การได้รับการยอมรับจากลูกค้าต่อเนื่อง นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับแอร์เอเชีย ผู้บริหารและพนักงานของสายการบิน หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในสถานการณ์โควิด”   ด้วยเครื่องบินกว่า 170 ลำของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ที่ทยอยกลับมาให้บริการต่อเนื่อง ทั้งนี้แอร์เอเชียคาดว่าจะสามารถนำเครื่องบินทั้งหมด 204 ลำกลับมาให้บริการภายในสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ เทียบเท่าปริมาณที่นั่ง 100% ก่อนสถานการณ์โควิด อย่างไรก็ตามสายการบินยังมีแผนสยายปีกการเติบโตมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มฝูงบินใหม่ 19 ลำภายในปีนี้ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินที่ออกเเบบพิเศษสำหรับการขนส่งคาร์โก้จำนวน 4 ลำ

นอกจากนี้แอร์เอเชียยังมีแผนคำสั่งซื้อเครื่องบินระยะยาวอีกครั้ง เพื่อขยายฝูงบินให้มีขนาดใหญ่ที่สุดรวมทั้งสิ้น 362 ลำ โดยลำแรกจะส่งมอบในปี 2567 นอกจากนี้ สายการบินยังพิจารณาโอกาสทางธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ โดยเทเลพอร์ต โดยจะได้รับเครื่องบินขนส่งสินค้าแบบ A321Fs ลำแรกจากจำนวน 3 ลำในเดือนกรกฎาคม เพื่อเพิ่มปริมาณและความสะดวกรวดเร็วในการจัดส่งข้ามภูมิภาค  แอร์เอเชียยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนาปรับปรุงระบบแชตถามตอบอัตโนมัติ askBo ควบคู่การเปิดตัวเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าแบบไบโอเมตริกซ์ (FACES) อย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มนำมาใช้งานสำหรับการเดินทางเส้นทางหลักภายในประเทศ เพื่อทำให้การเดินทางผ่านสายการบินมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเคย

นายโทนี่กล่าวเสริมว่า “เราขอมอบรางวัลพิเศษนี้ให้กับทีมงานคุณภาพ ซึ่งมีพนักงานออลสตาร์กว่า 22,000 คน จากหลากหลายแผนก หลากหลายประเทศที่ช่วยกันทำงานอย่างหนัก มุ่งมั่นทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อมอบบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้โดยสารกว่า 800 ล้านคนที่ได้เดินทางกับเราและกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเราได้สร้างคำนิยามและกำหนดมาตรฐานใหม่ของสายการบินราคาประหยัดร่วมกัน และแน่นอนเราจะไม่หยุดแค่นี้ แอร์เอเชียจะก้าวต่อไปและบินให้สูงขึ้นด้วยการรับฟัง ปรับใช้ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ พวกเราขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันน่าทึ่งครั้งนี้”