จังหวัดพิษณุโลกนับได้ว่าเป็นไมซ์ซิตี้ที่มีดีไม่แพ้ใคร เพราะจากการประกวด “10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์” ที่ผ่านมา จังหวัดเมืองรองแห่งนี้ได้สร้างสรรค์เส้นทางไมซ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ กิจกรรมวันแรกเริ่มด้วยการ สักการะ “พระพุทธชินราชและสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว” หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นเข้าชม วัดนางพญา ซึ่งถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านพระเครื่อง พร้อมแวะเยี่ยมชมโรงหล่อพระบูรณะไทย (จ่าทวี) โรงหล่อพระพุทธรูปแห่งนี้นับเป็นโรงหล่อพระพุทธรูปแห่งแรกของจังหวัดพิษณุโลก ในช่วงบ่ายคณะเดินทางจะมุ่งสู่ “ชุมชนท่องเที่ยวบ้านมุง” หมู่บ้านเล็ก ๆ ใน อ.เนินมะปรางที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงภูเขางามอายุ 300 ล้านปี มีกิจกรรมไมซ์ที่น่าสนใจอย่างการนั่งรถอีแต๊กท่องเที่ยวรอบชุมชนชมธรรมชาติ พร้อมกับฟังความรู้ทางธรณีวิทยาซึ่งมีการค้นพบซากฟอสซิลทะเลโบราณอายุ 360 ล้านปีภายในถ้ำ ก่อนจะแวะถ่ายรูปทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาล และเพื่อให้คณะเดินทางได้มีส่วนร่วมกิจกรรมมากขึ้น ด้วยกิจกรรมเรียนรู้และ Workshop งานศิลปะ อย่างการทำเปเปอร์มาเช่ การทำผ้ามัดย้อม การลงสีวาดภาพ เป็นต้น ต่อด้วยการเฝ้ารอชมฝูงค้างคาวนับล้านที่บินออกจากถ้ำยามพลบค่ำเพื่อออกหากิน ก่อนจะถึงเวลารับประทานอาหารค่ำสำหรับใหญ่จากเชฟชุมชนที่เรียกว่าเป็น “ลายเซ็น” ของชุมชนคือ “ห่อหมกตาว และ ข้าวแดกงา”
รับวันใหม่กับการ “ล่องแม่น้ำน่านไปกับ Sup board” ที่นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นมิตรกับทุกเพศ ทุกวัย ที่น่าสนใจคือแม่น้ำน่านเป็นหนึ่งในสองแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดพิษณุโลก และเป็นที่มาของชื่อเรียก “เมืองสองแคว” ซึ่งคณะผู้เดินทางจะได้ร่วมสำรวจวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำและชมทัศนียภาพสถานที่สำคัญของเมืองผ่านไมซ์ในมุมมองใหม่ตลอดระยะ 5.5 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น เดินทางไปศึกษาดูงานที่ ‘บ้านเตาไห’ ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำน่าน ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีการค้นพบเตาเผาโบราณ 100 เตา และเครื่องปั้นดินเผาอายุ 600 ปี โดยในอดีตเคยเป็นชุมชนผลิตเครื่องปั้นดินเผาส่งออกที่สำคัญของเมืองที่เคยสูญหายไปนานจนกระทั่งถูกกลับมาค้นพบอีกครั้งเมื่อปี 2558 ปัจจุบันมีการฟื้นฟูภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผาขึ้นมาใหม่ จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่จะทำให้คณะเดินทางได้มีส่วนร่วมมากขึ้นคือการ Workshop การปั้นและการขึ้นลาย “อุ” สัญลักษณ์ของบ้านเตาไห โดยคณะเดินทางจะได้รับการถ่ายทอดความรู้จากสมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ
ก่อนไปรับประทานอาหารกลางวันที่ “เรนฟอเรสท์ ฟาร์ม” อาหารที่ไม่ได้มีดีแค่แหล่งที่ปลูก แต่รวมไปถึงการเริ่มคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การหมักปุ๋ย การเลือกใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ไปจนถึงการเลือกดินสำหรับแปลงปลูก หลังจากอิ่มกับมื้ออาหารแล้วยังได้เยี่ยมชมฟาร์มออร์แกนิก และรับฟังความรู้จากสมาชิกเกษตรกรอินทรีย์จากกลุ่ม “สองแคว ออร์แกนิก” ด้วย ปิดท้ายทริปขององค์กรด้วยการทำแซนด์วิชช้าง ที่ศูนย์การเรียนรู้ช้างทรัพย์ไพรวัลย์ ซึ่งได้ช่วยเหลือช้างเร่ร่อนคืนสู่วิถีธรรมชาติในพื้นที่ป่าเกือบ 1 พันไร่ เรียนรู้การทำแซนด์วิชสุขภาพเพื่อช้าง เพราะ “ช้างไม่ควรกินแต่ผลไม้!” โดยผู้เดินทางจะได้เป็นเชฟเลือกวัตถุดิบและทำแซนด์วิชให้ช้างตามสัดส่วนโภชนาการที่เหมาะสม พร้อมกับร่วมงานปาร์ตี้น้ำชายามบ่ายกับเหล่าช้างภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเดินทางกลับสู่ท่าอากาศยานพิษณุโลก เส้นทางนี้ ดำเนินงานโดย บริษัท เดสทิเนชั่น เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด รับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนจำกัดเพียง 30 ท่าน / ทริป ในราคาท่านละ 9,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่ายานพาหนะและมัคคุเทศก์สำหรับการเดินทางตามโปรแกรม 2 วัน 1 คืน ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย SHA พร้อมค่าที่พัก และอาหารเช้าสำหรับห้องพักคู่ (2 ท่านต่อ 1 ห้อง) ที่โรงแรม “ชินะปุระ ฮิสตอริค บูติก โฮเทล พิษณุโลก” รวมถึงอาหารกลางวัน 2 มื้อ อาหารค่ำ 1 มื้อ ผู้สนใจสามารถคลิกขอใบเสนอราคาเพื่อพิจารณาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ https://bit.ly/3C2Hcan ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของกิจกรรมหรือที่พักได้ตามความต้องการขององค์กร
นอกจากนี้ ยังสามารถขอสิทธิ์รับเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมมูลค่า 15,000 หรือ 30,000 บาท จาก “โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า 2564” ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564