เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวถึงความคืบหน้าข้อเสนอให้ขยายเวลาปิดสถานบริการต่างๆในยามค่ำคืน ไปปิดที่เวลา 04.00 น.ว่า สัปดาห์นี้ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปสุ่มเก็บข้อมูลที่พัทยา ถึงผลกระทบหากมีมาตรการนี้ ทั้งจากผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และชาวบ้านว่ามีเสียงสะท้อนอย่างไร รวมถึงการคำนวณตัวเลขว่าจะได้เม็ดเงินกลับมาเท่าไหร่ ซึ่งหากได้ตัวเลขที่ชัดเจนแล้วจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ต่อไป โดยอาจเริ่มทำที่จังหวัดนำร่องก่อน เช่น กรุงเทพฯ จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.สงขลา เพราะตอนนี้กำลังเข้าช่วงไฮซีซั่น หวังว่าเราจะได้นักท่องเที่ยวตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ประมาณ 41 ล้านคน
“ต่อให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศเท่าเดิม แต่เราได้รายได้เพิ่มเติมโดยเฉลี่ยอีก 20% จากการขยายเวลาถึงตี 4 ก็เท่ากับเรามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลายล้านคน สำหรับคนที่เป็นห่วง ผมย้ำว่าเราไม่ได้ปูพรมทำทั่วประเทศ แต่จะจัดโซนนิ่งเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ตอนนี้กำลังจะหารือผู้ว่าฯ และตำรวจว่าควรเป็นจุดใดที่เจ้าหน้าที่สามารถดูแลได้ 100% ”
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ ยังเปิดใจภายหลัง ครม. มีมติไม่เห็นชอบกับข้อเสนอปล่อยฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดียว่า ไม่ใช่ตนจะคิดเองทำเอง แต่ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ก็เห็นด้วย เลยเป็นที่มาของการพิจารณาใน ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีใครคัดค้าน ทั้งนี้ ตนยืนยันถึงข้อดีของการเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ชาติ และมั่นใจในมาตรการความมั่นคง