การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวดูดาวทั่วทุกภูมิภาคของไทย ภายใต้แนวคิด “Amazing Dark Sky in Thailand” พร้อมประกาศรายชื่อ 12 พื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยและเปิดตัวคู่มือท่องเที่ยว “ชวนเธอ ไปชมดาว” เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ปลุกกระแสการเดินทางในช่วงฤดูกาลปลายฝนต้นหนาว โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกันแถลงข่าว ณ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคาร ททท.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า โครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท. และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่นักเดินทางผ่านการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) เพื่อตอบรับแนวโน้มการการท่องเที่ยวแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) และ พฤติกรรมของนักเดินทางในยุค Social Distancing ซึ่งต้องการพื้นที่พักผ่อนที่สร้างความสุขใกล้ตัวได้ง่ายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ททท. จึงสร้างสรรค์สินค้าท่องเที่ยวด้วยจุดขายใหม่ Dark Sky Tourism นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Amazing Dark Sky in Thailand” พร้อมกับเปิดตัวคู่มือการท่องเที่ยว“ชวนเธอ ไปชมดาว” เพื่อสร้างความประทับใจในเรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยววิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการดูดาว โดยอ้างอิงข้อมูลเชิงดาราศาสตร์มากำหนดเส้นทางท่องเที่ยว รวมถึงความพร้อมในการรองการนักท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกหรือผู้ให้คำแนะนำเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้า
อีกทั้งเป็นการตอกย้ำความพร้อมของพื้นที่การท่องเที่ยวทุกภูมิภาคของประเทศไทยที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ในโอกาสปีท่องเที่ยวไทย 2565 – 2566 หรือ “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” เพื่อเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยการทำการตลาดแบบเฉพาะ ผ่านการสร้างคุณค่าประสบการณ์ที่แตกต่างตลอดการเดินทาง ให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจพิเศษ (Hyper Personalization)
เป็นผู้ชื่นชอบการดูดาว สนใจในด้านดาราศาสตร์ ชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์สำคัญที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา ฝนดาวตก หรือชมความสวยงามของดวงดาวต่าง ๆ และกลุ่มดาวจักรราศีที่ปรากฏในท้องฟ้าแต่ละเดือน ซึ่งนอกจากจะตื่นตาตื่นใจท้องฟ้าในยามค่ำคืน ณ สถานที่ดูดาวทั่วทุกภูมิภาคของไทย สนุกสนานไปกับกิจกรรมสอดแทรกความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ควบคู่ไปด้วย ตลอดจนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่น ๆ ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดนั้น
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า โครงการ Dark Sky in Thailand หรือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ซึ่งริเริ่มดำเนินการร่วมกับ ททท. ตั้งแต่ปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากมลภาวะทางแสงและอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านการจัดตั้งเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด โดยสถานที่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในแต่ละประเภทจะต้องมีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีการบริหารจัดการแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากแสงรบกวน เป็นพื้นที่เปิดโล่งซึ่งสามารถสังเกตท้องฟ้าได้โดยรอบ มองเห็นดาวเหนือ และวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงมีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แก่ผู้มาใช้บริการ เช่น เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ร้านอาหาร เป็นต้น และในปี 2565 นี้ ได้มีการจัดพิธีมอบโล่และขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยขึ้นเป็นปีแรกภายใต้แคมเปญ “Amazing Dark Sky in Thailand” โดยมีสถานที่ได้รับการรับรองให้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยจำนวน 12 แห่ง มีระยะเวลาการขึ้นทะเบียนรวม 3 ปี นับเป็นพื้นที่นำร่องปลุกกระแสความสนใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์ที่จะนำมาใช้เป็นจุดขาย การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ส่งเสริมประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงทางดาราศาสตร์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเป็นสถานที่ถ่ายภาพสำหรับกลุ่มนักดาราศาสตร์สมัครเล่น
ทั้งนี้ พื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประจำปี 2565 มี 12 พื้นที่ซึ่งผ่านเกณฑ์การพิจารณา มีทั้งอุทยานท้องฟ้ามืด คือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ, ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด (Dark Sky Communities) คือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน เทศบาล ตำบล, เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล (Dark Sky Properties) คือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ท โรงแรม ฟาร์ม ศูนย์การเรียนรู้ ฯลฯ และเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง สำหรับสถานที่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย จำนวน 12 แห่ง ประกอบด้วย
- อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
- อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชบุรี ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง
จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด - อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
- อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
- ชุมชนออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ประเภท ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด
- ไร่องุ่นไวน์ อัลซิดินี่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคค8
- โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
- สนามมวกเหล็ก เอทีวี อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
- บ้านไร่ยายชะพลู อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
- เดอะเปียโน รีสอร์ท อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
- ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสมัครเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยได้ที่ https://darksky.narit.or.th/