บ่ายวันที่ (2 มีนาคม2565) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท ( Thai Vietjet Air) โดยนายเลือง เจื่อง อาน Executive Vice President of Thai VietJet Air ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent – LOI) ในการวางแผนกระตุ้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวเวียดนามและกัมพูชา พร้อมกันนี้ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. และนายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) สายการบินไทยเวียตเจ็ท ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนามณ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคาร ททท.
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความรุนแรงของโรคเริ่มลดลง หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้สถานการณ์การเดินทางทั่วโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยเหตุนี้ ททท. จึงเล็งเห็นว่าปี 2565 เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินหน้าพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ด้วยแนวคิด Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters กระตุ้นการเดินทางและฟื้นคืนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ใช้โอกาสที่ดีในการที่รัฐบาลได้เปิดการท่องเที่ยวแบบ Test & Go อีกครั้ง ต่อยอดการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างยั่งยืน (Preferred Destination) อย่างแท้จริง
ในการนี้ เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวในตลาดระยะใกล้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ททท. และ สายการบินไทย เวียตเจ็ท (Thai Vietjet Air) จึงได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) มีผลต่อกันในระยะเวลา 1 ปี โดย 2 หน่วยงานจะร่วมกันวางกลยุทธ์และดำเนินกิจกรรมการตลาด ส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสำหรับตลาดอาเซียนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการกลับมาเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างเวียดนาม-ไทยและกัมพูชา-ไทย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและท่องเที่ยวและช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโตของกลุ่มตลาดเวียดนามและกัมพูชาได้เป็นอย่างดี รวมทั้งร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Joint Promotion) มอบส่วนลด และสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวในเส้นทางเดินทางมายังประเทศไทย และจัดกิจกรรม Agent Fam Trip หรือ Media Fam Trip นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากกัมพูชาและเวียดนาม ร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยมุมมองใหม่ๆ ผ่านการสำรวจและทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่จะตอบทุกโจทย์ความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยว ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet Air) เตรียมวางแผนเปิดให้บริการเส้นทางบินจากประเทศไทยสู่ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียเพิ่มมากขึ้น อาทิ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อตลาดนักท่องเที่ยวอื่นๆ อันจะเกิดผลดีต่อการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในอนุภูมิภาค ควบคู่กับการพิจารณาเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามและกัมพูชา ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย จากสถิติปี พ.ศ. 2562 พบว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเวียดนาม จำนวน 1,077,000 คน มีอัตราพักค้างเฉลี่ย 4 คืน โดยส่วนใหญ่นิยมเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ชลบุรี อุดรธานี เชียงใหม่และหนองคาย ขณะเดียวกัน
มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาอยู่ที่ 908,000 คน มีอัตราพักค้างเฉลี่ย 5 คืน และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว
ยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สระแก้ว ปทุมธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ