การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยื่นข้อเสนอขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการทัวร์เที่ยวไทย ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คงก.) ในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 และ วันที่ 21 มิถุนายน 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ อนุมัติโครงการทัวร์เที่ยวไทย ให้สิ้นสุดโครงการถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินจนถึงเดือนธันวาคม 2565 โดยกำหนดให้ประชาชนใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 พลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของประชาชน เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจนำเที่ยว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท. เปิดเผยว่า โครงการทัวร์เที่ยวไทยเป็นโครงการที่รัฐบาลสนับสนุนค่าแพคเกจท่องเที่ยว 40% ให้แก่ประชาชน ไม่เกิน 5,000 บาท/สิทธิ กำหนด 1 สิทธิ/คน (จำนวนสิทธิคงเหลือ ณ วันที่ 7 ก.ค. 2565 คือ 131,415 สิทธิ) ซึ่งการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งผลักดันมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศที่ซบเซาอันเนื่องมาจาก การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และได้ขอขยายระยะเวลาการสิ้นสุดโครงการถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 โดยใช้วงเงินงบประมาณเดิม (งบประมาณ 1,000 ล้านบาท) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว (ทั้งแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ที่ได้รับอนุญาตหรือดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและยังเปิดให้บริการตามปกติ ต้องจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 และมีการต่ออายุอย่างต่อเนื่องจนจบโครงการ ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนหรือถูกดำเนินคดีอาญาในโครงการกำลังใจ เราเที่ยวด้วยกันหรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐ เปิดใช้บริการแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ระบุเป็นประเภทผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเท่านั้น และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย โดยมีเงื่อนไข คือ 1 บริษัท ต่อ 1,000 สิทธิ และ รายการนำเที่ยว 30 รายการ ต่อ 1 บริษัท กรณีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายเดิมที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์แล้ว ส่งรายการนำเที่ยวใหม่วันที่ 27 มิถุนายน – 15 กันยายน 2565 / เปิดจองรายการนำเที่ยวเดิมวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 / เริ่มออกเดินทางทริปแรกวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เสร็จสิ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2565 / ส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กันยายน 2565
กรณีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายใหม่ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ได้ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป / ส่งรายการนำเที่ยววันที่ 3 กรกฎาคม – 15 กันยายน 2565 / เริ่มออกเดินทางทริปแรกวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เสร็จสิ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2565 / ส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กันยายน 2565 สำหรับประชาชนทั่วไป ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นผู้มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ต้องแสดงตนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง” โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการไม่สามารถใช้แพคเกจท่องเที่ยวของโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเวลาเดียวกับการเข้าพักโรงแรม/ที่พักของโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้ สามารถเลือกจองรายการนำเที่ยวที่สนใจผ่านเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2565 ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องซื้อรายการนำเที่ยวก่อนออกเดินทาง 7 วัน และชำระค่ารายการนำเที่ยวจำนวน 60% ของราคารายการนำเที่ยวให้กับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ภายในเที่ยงคืนของวันที่ทำการจอง และสามารถยกเลิกการจองรายการนำเที่ยว ก่อนชำระเงินเท่านั้น กรณีชำระเงินแล้วมีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเดินทางได้ การคืนเงินให้ปฏิบัติตาม พรบ. ธุรกิจนำเที่ยว ปี 2551 และไม่สามารถโอนสิทธิ์การเดินทางให้บุคคลอื่นได้
จากความสำเร็จของโครงการ ฯ ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางแล้ว 63,506 คน มีจำนวนผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเสนอขายรายการไปทั้งสิ้น 375 ราย สร้างรายได้รวมมูลค่า 728,166,429.40 บาท แบ่งเป็นจำนวนเงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมูลค่า 445,314,012.40 บาท และจำนวนเงินที่รัฐบาลสนับสนุนมูลค่า282,852,416.80 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565) ททท. เชื่อมั่นว่าการขยายระยะเวลาโครงการทัวร์เที่ยวไทยในครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว ช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจนำเที่ยว และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ