ไฮเซ่นส์ (Hisense) บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ภายในบ้านระดับแถวหน้า มีความยินดีในการประกาศเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับศึกยูฟ่าเนชันส์ลีกรอบสุดท้าย (Nations League Finals) ประจำปี 2566 ซึ่งนับเป็นครั้งที่สามแล้วที่ไฮเซ่นส์ให้การสนับสนุนรายการนี้และมีขึ้นหลังจากที่ตัวเลขยอดขายใหม่สะท้อนให้เห็นว่า กลยุทธ์การตลาดกีฬาที่ครอบคลุมรอบด้านของไฮเซ่นส์ประสบผลสำเร็จอย่างดี การเป็นพันธมิตรกับยูฟ่า (UEFA) หมายความว่า หน้าจอใหญ่ในสนามแข่งจะปรากฏให้เห็นโลโก้ของไฮเซ่นส์ ทั้งยังทำให้แบรนด์ไฮเซ่นส์ปรากฏอยู่ข้างสนามและในงานแถลงข่าวด้วย นอกจากนี้ ไฮเซ่นส์ยังจะเป็นสปอนเซอร์ประจำคอนเทนต์ซีรีส์สกิล ออฟ เดอะ เดย์ (Skill of the Day) ของการแข่งขันรายการนี้ด้วย เพื่อโชว์ช่วงเวลาเด็ด ๆ ที่แสดงให้เห็นความหลักแหลมของแต่ละเกมการแข่งขัน สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ไฮเซ่นส์เตรียมเปิดแคมเปญเวย์ ทู กลอรี (Way to Glory) ซึ่งสะท้อนให้เห็นทั้งความก้าวหน้าของไฮเซ่นส์ในระดับโลก และเส้นทางของผู้เข้ารอบชิงทั้งสี่ในการไขว่คว้าชัยชนะในศึกครั้งนี้ โดยไฮเซ่นส์จะใช้แคมเปญเวย์ ทู กลอรี ในการโปรโมททีวียูแอลอีดี เลเซอร์ทีวี ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ
แคมเปญเวย์ ทู กลอรี และการเป็นพันธมิตรกับการแข่งขันรายการยูฟ่า เนชันส์ ลีก ไฟนอลส์ ประจำปี 2566 มีขึ้นในช่วงเวลาที่ไฮเซ่นส์เติบโตอย่างมากในระดับสากล โดยเมื่อเดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ทำยอดขายทีวีได้เพิ่มขึ้นถึง 71.14% เทียบรายปี และทำยอดขายเครื่องซักผ้าได้เพิ่มขึ้น 63.73% ในยุโรป อันเป็นผลจากการที่ไฮเซ่นส์เข้ามามีบทบาทอย่างจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการกีฬา การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้บริโภคและพันธมิตรโดยใช้การตลาดกีฬาอย่างเต็มศักยภาพนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไฮเซ่นส์ให้ความสำคัญนับตั้งแต่เริ่มขยายธุรกิจในต่างประเทศ การสร้างความร่วมมือกับการแข่งขันกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลกไม่เพียงแต่ทำให้ไฮเซ่นส์ได้ปรากฏโฉมระหว่างการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอีกด้วย
ปัจจุบัน ไฮเซ่นส์มีบริษัทสาขาและสำนักงานในต่างประเทศ 66 แห่ง พร้อมกับดำเนินกลยุทธ์การตลาดกีฬาระดับภูมิภาคอย่างแข็งขัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจในท้องถิ่น ตัวอย่างที่สำคัญคือการสร้างความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลชื่อดังในอิตาลีอย่าง อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) เจ้าของฉายา เนรัซซูรี (Nerazzurr) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับไฮเซ่นส์มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 และกำลังจะลงฟาดแข้งในนัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายนนี้ ข้อตกลงดังกล่าวแสดงถึงความปรารถนาร่วมกันระหว่างสโมสรและบริษัทในการปรับปรุงผลงานอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่ความสำเร็จ และรักษาผลประโยชน์ที่ทั้งสององค์กรสามารถแบ่งปันร่วมกันได้ ไฮเซ่นส์ได้นำความเชื่อทั้งสามนี้มารวมไว้ด้วยกันภายใต้แนวคิด #alwaysbetter (ดีกว่าเสมอ) ซึ่งมาพร้อมกับการสื่อสารจากแบรนด์ไฮเซ่นส์ที่มีความเกี่ยวข้องกับอินเตอร์ มิลาน
นอกจากนี้ ไฮเซ่นส์ยังเปิดตัวตู้เย็น ชิลล์ ฟริดจ์ อินเตอร์ ลิมิเต็ด อิดิชัน (Chill Fridge Inter Limited Edition) ที่มีตราสโมสรและสีประจำทีม และเมื่อเดือนที่แล้ว ไฮเซ่นส์ได้เปิดประมูลตู้เย็นรุ่นพิเศษพร้อมลายเซ็นของฮาเวียร์ ซาเนตติ (Javier Zanetti) รองประธานสโมสร ผ่านทางอีเบย์ (eBay) โดยรายได้จะนำไปบริจาคให้กับยูนิเซฟ (UNICEF) ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเปิดตัวภายใต้สโลแกน I’M CHILL และพร้อมให้แฟนบอลตัวจริงจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วทางแอมะซอน (Amazon) และยูโรนิกส์ (Euronics)