แซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส สร้างระบบนิเวศอัจฉริยะทุกสภาวการณ์ 2.0 (Full-Scenario Intelligent Ecosystem 2.0) อัปเกรดใหม่ “1+2+N” เพื่อนำวิถีชีวิตดิจิทัลใหม่มาสู่ผู้บริโภค
- แซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส จะเปิดตัวแท็บเล็ต 3 มิติโดยไม่ต้องสวมแว่นซึ่งขับเคลื่อนด้วยเอไอรุ่นแรกของโลก นูเบีย แพด 3ดี (nubia Pad 3D) และแว่นตาความจริงแต่งเติม (AR) นูเบีย นีโอวิชัน เออาร์ กลาส (nubia Neovision AR Glass) พร้อมมอบสุดยอดประสบการณ์ภาพและเสียง
- ด้วยการยึดมั่นในแนวคิด “สีเขียว อัจฉริยะ และมั่นคงปลอดภัย” แซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส จะนำเสนอรุ่นที่ 5 ของผลิตภัณฑ์บรอดแบนด์ไร้สาย (FWA) 5G ประกอบกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามแนวคิดดังกล่าวนี้ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566
แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น (ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก เข้าร่วมงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress 2023 หรือ MWC 2023) ในบาร์เซโลนา ด้วยบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคในทุกหมวด ทั้งแซดทีอี แอ็กซอน (ZTE Axon), แซดทีอี เบลด (ZTE Blade), นูเบีย (nubia) และผลิตภัณฑ์และโซลูชันเชิงอุตสาหกรรมในตระกูลบรอดแบนด์เคลื่อนที่ (MBB), บรอดแบนด์ไร้สาย (FWA) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสภาวการณ์ใช้งานของผู้บริโภคและความต้องการของผู้ใช้ กลยุทธ์ของแซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส (ZTE Mobile Devices) ได้รับการยกระดับอย่างเป็นทางการ เป็นระบบนิเวศอัจฉริยะทุกสภาวการณ์ 2.0 (Full-Scenario Intelligent Ecosystem 2.0) “1+2+N”
เครือข่าย 5G ซึ่งมาพร้อมกับข้อดีด้านอัตราสูง ความหน่วงต่ำ และแบนด์วิดท์การส่งถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ ได้นำการบริโภคเนื้อหาใหม่ ๆ มาในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ในการนี้แซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส ได้เปิดตัวนูเบีย แพด 3ดี (nubia Pad 3D) แท็บเล็ต 3 มิติโดยไม่ต้องสวมแว่นซึ่งขับเคลื่อนด้วยเอไอรุ่นแรกของโลก และนูเบีย นีโอวิชัน กลาส (nubia Neovision Glass) แว่นตาความจริงแต่งเติม (AR) ซึ่งมอบสุดยอดประสบการณ์ภาพและเสียง อีกทั้งยังได้ประกาศแนวคิดสำหรับผลิตภัณฑ์ MBB และ FWA อันได้แก่ “สีเขียว อัจฉริยะ และมั่นคงปลอดภัย” (Green, Intelligence & Security หรือ GIS) รวมไปถึงผลิตภัณฑ์หลักอื่น ๆ รวมทั้ง FWA รุ่นที่ 5
ระบบนิเวศอัจฉริยะทุกสภาวการณ์ 2.0 อัปเกรดใหม่
5G ได้ยกระดับการทำงานและชีวิตของผู้คน พร้อมทั้งดึงดูดให้คนมีอุปกรณ์เคลื่อนที่ในครอบครองมากกว่าหนึ่งเครื่อง ด้วยสมรรถนะอันทรงพลังของ “คลาวด์ เครือข่าย เอดจ์ และอุปกรณ์” แซดทีอี มายโอเอส (ZTE MyOS) จะทลายพรมแดนของอุปกรณ์ที่แตกต่างกันและสร้างการเชื่อมต่อระหว่างกันอย่างไร้รอยต่อของระบบนิเวศอุปกรณ์ “1+2+N” ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ เทอร์มินัลสัญญาณส่วนตัวและประจำบ้าน และผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงในระบบนิเวศเดียวกัน ซึ่งจะมอบการยกระดับใหม่ของวิถีชีวิตดิจิทัล และระบบนิเวศอัจฉริยะทุกสภาวการณ์ 2.0
แซดทีอี มายโอเอส จะเอื้อให้เกิดการรับรู้และปฏิสัมพันธ์อัจฉริยะระหว่างอุปกรณ์ โดยครอบคลุมสี่สภาวการณ์ใช้งานหลัก ประกอบด้วย กีฬาและสุขภาพ ความบันเทิงภาพและเสียง ธุรกิจและการท่องเที่ยว และครอบครัวและการศึกษา เพื่อมอบประสบการณ์การบูรณาการหลายอุปกรณ์และการเชื่อมต่อหลายหน้าจอ การเชื่อมโยงข้ามอุปกรณ์ และวิถีชีวิตดิจิทัลแบบผนวกรวมสภาวการณ์ใช้งานอัจฉริยะให้แก่ผู้ใช้
นูเบีย แพด 3ดี มอบประสบการณ์ใหม่ในด้านเทคโนโลยี
นูเบีย แพด 3ดี ซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกันระหว่างแซดทีอีกับผู้พัฒนาระบบ 3 มิติโดยไม่ต้องสวมแว่นระดับแนวหน้าของโลกอย่างเลอา อิงค์ (Leia Inc.) มาพร้อมกับเทคโนโลยีไลท์ฟีลด์ 3 มิติ (3D Lightfield) ของเลอาที่ไม่เหมือนอื่นใด และพลังการประมวลผลด้วยเอไอที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้พร้อมรองรับสภาวการณ์ใช้งาน 3 มิติอย่างหลากหลายครบครัน ทั้งนี้โดยรองรับการติดตามใบหน้าด้วยเอไอ ซึ่งสามารถให้การมองเห็นที่ดีที่สุด (สูงสุด 8 มุมมอง) แบบเรียลไทม์ สามารถแปลงภาพจาก 2 มิติเป็น 3 มิติด้วยเอไอแบบเรียลไทม์ ตลอดจนสร้างคอนเทนต์ 3 มิติโดยเอไอด้วยกล้องหน้าหรือกล้องหลัก อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับแอป 3 มิติเอไอยอดนิยมสำหรับการสร้างสรรค์เชิงศิลปะ นูเบีย แพด 3ดีมาพร้อมกับหน้าจอ 2.5 เคขนาด 12.4 นิ้วและลำโพงที่สมมาตรสี่ตัวซึ่งรองรับระบบเสียงดอลบี เซอร์ราวด์ ซาวด์ (Dolby Surround Sound) เพื่อมอบประสบการณ์เสียงและภาพเสมือนจริง ด้วยระบบนิเวศคลังคอนเทนต์ 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อุปกรณ์ดังกล่าวนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานการแชทวิดีโอแบบ 3 มิติเป็นครั้งแรกของโลก ชมภาพยนตร์แบบ 3 มิติในโรงส่วนตัว เล่นเกม 3 มิติเสมือนจริง ตลอดจนสภาวการณ์ใช้งานอื่น ๆ ทั้งนี้ ด้วยชิปซีรีส์สแนปดรากอน 8 (Snapdragon 8) นูเบียแพด 3ดีมีสมรรถนะที่โดดเด่น อีกทั้งยังพร้อมมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยกระดับในทุกมิติด้วยแบตเตอรี่ขนาด 9070mAh และที่ชาร์จเร็วขนาด 33W
แว่น AR อัจฉริยะ มอบประสบการณ์หน้าจอที่พกพาได้
นูเบีย นีโอวิชัน กลาส เป็นแว่นอัจฉริยะตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองทียูวี ไรน์แลนด์ (TÜV Rheinland) และการรับรองเสียงความละเอียดสูง มาพร้อมกับหน้าจอเสมือนจริงขนาด 120 นิ้วและหน้าจอแสดงผลไมโครโอแอลอีดี (Micro OLED) ด้วยความละเอียด 1920×1080 สำหรับทั้งสองตา อีกทั้งยังรองรับการปรับระยะสายตา 0-500° เพื่อมอบมุมมองคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์โดยไม่จำเป็นต้องสวมแว่น ลำโพงคู่ในตัวระบบเสียงแบบไซโคลนิก (cyclonic) และสเตอริโอแบบฟูลเรนจ์ (full-range) มอบประสบการณ์เสียงเสมือนจริงและเที่ยงตรง นอกจากนี้ยังมีเลนส์แม่เหล็กสำหรับการสตรีมซึ่งมาในสีสันสดใส แว่นที่เท่ดูดี สวมใส่สบาย และพกพาได้นี้มาในดีไซน์โฉบเฉี่ยวไร้กรอบและมีน้ำหนักเพียง 79 กรัมเท่านั้น
แนวคิด GIS สีเขียว อัจฉริยะ และมั่นคงปลอดภัย ขับเคลื่อนการพัฒนาใหม่ของอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่
แซดทีอีเป็นผู้บุกเบิกระดับโลกในด้าน MBB และ FWA 5G โดยรายงานฉบับใหม่ของบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพระหว่างประเทศอย่างทีเอสอาร์ (TSR) ชี้ว่า ในปี 2565 ส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์ MBB และ FWA ของแซดทีอีอยู่ในอันดับหนึ่งของโลก ส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์ MBB และ FWA 5G ของแซดทีอีอยู่ในอันดับหนึ่งของโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน และมียอดการขนส่งสะสมระดับโลกเกิน 3 ล้านหน่วยแล้ว ทั้งนี้ในปี 2566 แซดทีอีจะยึดมั่นในแนวคิดผลิตภัณฑ์ “สีเขียว อัจฉริยะ และมั่นคงปลอดภัย” ต่อไป
การออกแบบสีเขียว การรับรู้สีเขียว และบริการสีเขียว ทำให้การบริโภคพลังงานโดยรวมของแซดทีอีลดลงอีก 10% แซดทีอีให้บริการการเข้าถึงอัจฉริยะมากขึ้น เช่นเดียวกับการควบคุมสภาวการณ์ใช้งานอัจฉริยะโดยขึ้นอยู่กับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ และหลายโหมดอัจฉริยะเพื่อกำกับอัตราการเข้าถึงและสถานะการตอบสนองของอุปกรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อทำให้การส่งข้อมูลปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้น แซดทีอีได้เปิดตัวสภาวการณ์ใช้งานแบบปลอดภัยสองรายการสำหรับครัวเรือนและเด็กโดยเฉพาะ ด้วยระบบความมั่นคงปลอดภัยที่ครอบคลุมและห้องปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยเครือข่ายที่กระจายตัวอยู่ในระดับโลก แซดทีอีได้สร้างสมรรถภาพที่จะรับประกันความมั่นคงปลอดภัยของเครือข่ายทั่วโลก
ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 นี้ แซดทีอีได้เปิดตัวเอ็มซี888 โปร (MC888 Pro) ในเวอร์ชัน GIS อย่างเป็นทางการ ซึ่งลดการบริโภคพลังงานลง 10% และใช้วัสดุรีไซเคิลหลังการใช้งาน (PCR) 95% โดยเป็นผลิตภัณฑ์หลักตัวใหม่ภายใต้แนวคิดสีเขียว อัจฉริยะ และมั่นคงปลอดภัย
FWA 5G รุ่น 5 ใหม่ รองรับไวไฟ 7
แซดทีอียังได้เปิดตัว FWA 5G รุ่น 5 รองรับมาตรฐาน 3GPP R17 ใหม่ล่าสุด และใช้เสาสัญญาณอัจฉริยะ 5.0 ของแซดทีอีเพื่อเพิ่มกำลังส่งสัญญาณ 20% ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีไวไฟ 7 (Wi-Fi 7) อัตราส่งข้อมูลสูงสุดของผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 21 กิกะบิตต่อวินาที ด้วยเทคโนโลยีการขยายสัญญาณ ทำให้มอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เสถียรยิ่งขึ้น และเชื่อถือได้ยิ่งขึ้นอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีเมช-รีเทิร์น (Mesh-return) ใหม่ อุปกรณ์ดังกล่าวนี้มอบการครอบคลุมทุกทิศทางทั่วทั้งบ้านพร้อมด้วยการใช้งานในสภาวการณ์อัจฉริยะ ด้วยการรองรับรีโมทควบคุมและโปรโตคอลแมทเทอร์ (Matter) FWA 5G รุ่น 5 นี้สร้างศูนย์ควบคุมบ้านอัจฉริยะอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่มีการประกาศเปิดตัวใหม่ โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งแซดทีอี แอ็กซอน 40 อัลตรา (ZTE Axon 40 Ultra), แซดทีอี เบลด ซีรีส์ (ZTE Blade Series), นูเบีย แซด50 (nubia Z50), อุปกรณ์ต่อพ่วงในระบบนิเวศเดียวกัน รวมถึงแซดทีอี วอทช์ ไลฟ์ 2 (ZTE Watch Live 2), ชุดหูฟังบลูทูธ, อุปกรณ์ MBB และ FWA, เทอร์มินัล IoT และเทอร์มินัลอินเทอร์เน็ตของยานพาหนะ (IoV) ได้รับการจัดแสดงในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส 2566 เช่นกัน เพื่อมอบประสบการณ์ 5G อย่างครบวงจรให้แก่ผู้บริโภคและผู้ใช้เชิงอุตสาหกรรม
5G ยังคงนำการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต ระบบนิเวศอัจฉริยะสำหรับทุกสภาวการณ์ 2.0 เป็นมาตรการสำคัญสำหรับแซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส ในการเร่งให้เกิดการบูรณาการอุปกรณ์อัจฉริยะและพาชีวิตดิจิทัลก้าวไปข้างหน้าในยุคหลัง 5G เมื่อทุกสิ่งเชื่อมต่อถึงกันอย่างอัจฉริยะ ในอนาคต แซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส จะขับเคลื่อนธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าต่อไป ตลอดจนสร้างนวัตกรรมในเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถมีวิถีชีวิตดิจิทัลที่สนับสนุนโดยการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่ออย่างครอบคลุมทุกสภาวการณ์