เนทติเซนท์ ผนึกกำลัง Celigo นำ Solution HoneyConn สร้างรูปแบบการเชื่อมต่อ (Integration) ระหว่างระบบ SAP รายแรกแห่งวงการ ด้วยคอนเซปต์ Keep the Core Clean ปัจจุบันด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ธุรกิจมีตัวเลือกในการเข้าถึงและเลือกใช้บริการซอฟต์แวร์ในด้านต่างๆ เพื่อให้รองรับกับรูปแบบการทำงานได้ง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อาจสามารถการันตีในเรื่องของประสิทธิภาพและประสิทธิผลว่าจะสามารถตอบสนองกับการทำงานได้จริง และเช่นเดียวกันกับรูปแบบการวางระบบ SAP ที่ถึงแม้จะมีความสามารถในด้านการ Integration ที่รวดเร็ว แต่ด้วยรูปแบบการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีอยู่กระจัดกระจายและหลากหลาย หากองค์กรไม่ได้สร้างหรือมีระบบการ Integration ที่ดีก็ไม่อาจสนับสนุนระบบข้อมูลที่ซับซ้อน หรือ Software Application ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา บริษัท เนทติเซนท์ (Netizen) จำกัด ผู้ให้บริการด้านการวางระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) หนึ่งใน Platinum Partnerของ SAP ที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกรายเดียวในประเทศไทยของ United Vars จับมือร่วมกับ บริษัท เซลีโก้ (Celigo) ผู้นำด้านเทคโนโลยี integration Platform as a Service (iPaaS) และ Automate Process จากประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมสร้าง New Solution “HoneyConn” ด้วยคอนเซปต์ “Keep the Core Clean” ตอบโจทย์การสื่อสารการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์แบบ One Single Platform
ภายในงาน นาย เสรี สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ และ George Polyzos – Vice President, Asia Pacific จาก Celigo ร่วมลงนามความร่วมมือในการนำเทคโนโลยี System Integration เข้ามาใช้ในการสร้าง Middleware เชื่อมต่อระบบข้อมูลเพื่อให้การทำงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งช่วยทำให้ลดเวลาในการทำงาน และลดปัญหา Human Error จากการทำงานแบบ Manual หรือปรับแก้บนซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นที่อาจทำให้เกิดผลกระทบกับระบบอื่นๆ โดยรอบ
ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์การทำงานของ เนทติเซนท์ ในด้านการวางระบบ SAP ERP ที่ได้รับการยอมรับมาแล้วกว่า 23 ปี ทำให้ เนทติเซนท์ มีความเข้าใจในบริบทการทำงานที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ รวมถึงเล็งเห็นความหลากหลายในการ Customize โปรแกรมบนซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นที่ต้องปรับให้สอดรับเข้ากับการทำงานของแต่ละองค์กร “เนทติเซนท์เราต้องการสร้างบทบาทการทำงาน โดยมีพื้นฐานอยู่บนคอนเซปต์ Keep the Core Clean 
โดยเราต้องการที่จะลดการ Customize บนระบบ ERP หรือ Non ERP ให้น้อยที่สุด อีกทั้ง ด้วยความที่แพลตฟอร์มมีการทำงานอยู่บน Cloud ทำให้องค์กรสามารถลด Cost การทำงานได้มากขึ้น เช่น ลดการลงทุนในเรื่องของ Hardware หรือ การบำรุงรักษา Maintananceรวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่จะถูกจัดเก็บอยู่บน Cloud ที่เรา Provide โดย AWS” นาย เสรี สาธุกิจชัย กล่าว
สำหรับในอนาคตเป้าหมายของ HoneyConn (iPaaS) ที่พัฒนาโดย เนทติเซนท์ (Netizen) และ เซลีโก้ (Celigo) จะกลายมาเป็นอีกหนึ่ง integration Platform as a Service (iPaaS)ที่จะใช้เป็น Middleware ในการเชื่อมต่อระบบต่างๆ ขององค์กรและอื่นๆ เข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งยังสามารถสร้าง Workflow การทำงานให้เกิดขึ้นได้อย่างอัตโนมัติ ตอบโจทย์การพัฒนาภาพลักษณ์ธุรกิจสู่ยุค Digital Tranformation เพื่อยกระดับองค์กรให้กลายเป็น Tech Company และสนับสนุนการเป็น Leader ในแต่ละ Industry ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
