ในการประชุมสุดยอด หัวเว่ย อินเทลลิเจนท์ ไฟแนนเชียล ซัมมิต ประจำปี 2566 (Huawei Intelligent Finance Summit 2023) หัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) ได้จัดการประชุมในหัวข้อ “นำเทคโนโลยีคลาวด์เนทีฟมาพัฒนาการเงินอัจฉริยะและคล่องตัว” (Leading Cloud Native for Agile and Smart Finance) โดยแขกผู้มีเกียรติมากกว่า 500 คนจากสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับแนวโน้มของเทคโนโลยีคลาวด์เนทีฟ การหลอมรวมข้อมูลกับเทคโนโลยีเอไอเข้าด้วยกัน และการแบ่งปันแนวปฏิบัติร่วมกัน
คุณแจ็กเกอลีน สือ (Jacqueline Shi) ประธานฝ่ายการตลาดและการขายระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud Global Marketing and Sales Service) และคุณเจสัน เฉา (Jason Cao) ซีอีโอของหัวเว่ย โกลบอล ดิจิทัล ไฟแนนซ์ (Huawei Global Digital Finance) เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับ ขณะที่คุณวิลเลียม ตง (William Dong) ประธานของหัวเว่ย คลาวด์ มาร์เก็ตติง (Huawei Cloud Marketing) เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์หลัก พร้อมกับเปิดตัวสองโซลูชันนวัตกรรมใหม่ ได้แก่ ไฟแนนเชียล คอนเทนเนอร์ คลาวด์ (Financial Container Cloud) และคลาวด์ เนทีฟ เกาส์ดีบี (Cloud Native GaussDB) ซึ่งเป็นบริการคลังข้อมูล (DWS) “เรากำลังเป็นสักขีพยานของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมการเงินด้วยความเร็วในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน” คุณแจ็กเกอลีนกล่าว “เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คลาวด์เนทีฟ ข้อมูลอัจฉริยะ และการใช้เอไอสร้างคอนเทนต์ (AIGC) ไม่ใช่แค่คำพูดลอย ๆ เท่านั้น แต่เป็นโซลูชันนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านการเงิน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถยกระดับการดำเนินงานให้ทันสมัย ออกแบบประสบการณ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ดิฉันเชื่อว่าจุดหมายปลายทางของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลนั้นชัดเจนมาก แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยความท้าทาย เราหวังว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้สามารถเป็นไปได้จริงในอุตสาหกรรมการเงิน”
คุณเจสันกล่าวว่า “เราแบ่งปันโรดแมปและแผนการด้านเทคโนโลยีของเรากับทุกคน เราต้องการให้ทุกท่านเห็นถึงความแน่วแน่ของหัวเว่ย รวมถึงเห็นว่าเราทำอย่างไรเพื่อดำดิ่งสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและดำดิ่งให้ลึกลงไปในอุตสาหกรรมการเงิน เราคิดว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วสำหรับระบบคลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยีเอไอด้วย เราต้องการการเปลี่ยนแปลง และหัวเว่ยก็มีความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะสนับสนุนทุกท่านเพื่อรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงนี้”
คุณวิลเลียมกล่าวว่า ยิ่งเวลาผ่านไป ธนาคารชั้นนำต่างก็หันมาใช้คลาวด์เนทีฟกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และคลาวด์เนทีฟก็กำลังปูทางไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมการเงิน หัวเว่ย คลาวด์ ได้ดำเนินกลยุทธ์ Everything as a Service (บริการทุกสิ่ง) โดยมีจุดมุ่งหมายในการทำหน้าที่เป็นรากฐานของระบบคลาวด์และผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ทั้งนี้ สำหรับภาคธนาคารนั้น บรรดาธนาคารจะเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการเงินอัจฉริยะในสามส่วน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น แอปพลิเคชันทางการเงินที่ทันสมัย และการหลอมรวมข้อมูลทางการเงินกับเทคโนโลยีเอไอเข้าด้วยกัน
ส่วนที่หนึ่ง โครงสร้างพื้นฐานแบบออล-อิน-คลาวด์ (all-in-cloud) ที่ยืดหยุ่น บนพื้นฐานของความปลอดภัย ความเสถียร และความน่าเชื่อถือ โดยทรัพยากรของหัวเว่ย คลาวด์ สามารถปรับขนาดได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูงสำหรับการใช้งานตามความต้องการของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
ส่วนที่สอง แอปพลิเคชันทางการเงินที่ทันสมัย หัวเว่ย คลาวด์ มุ่งมั่นตั้งใจช่วยเหลือสถาบันการเงินในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงเปิดตัวบริการใหม่ ๆ ให้เร็วขึ้น ตลอดจนรับประกันคุณภาพและความเสถียรของซอฟต์แวร์
ส่วนที่สาม แพลตฟอร์มการวิเคราะห์และการตัดสินใจทางการเงินที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการหลอมรวมข้อมูลกับเทคโนโลยีเอไอเข้าด้วยกัน แพลตฟอร์มนี้เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาบริการอัจฉริยะที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละราย อีกทั้งยังช่วยให้สถาบันการเงินสามารถทำนายและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ในการประชุมครั้งนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ได้เปิดตัวโซลูชันนวัตกรรมใหม่อย่างเป็นทางการ ได้แก่ ไฟแนนเชียล คอนเทนเนอร์ คลาวด์ และคลาวด์ เนทีฟ เกาส์ดีบี โดยไฟแนนเชียล คอนเทนเนอร์ คลาวด์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากหัวเว่ย คลาวด์ สแต็ก (Huawei Cloud Stack) ได้ถูกนำไปใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่งภายในองค์กรของลูกค้าหลายราย โดยมาพร้อมคุณสมบัติเด่นสี่ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่นและความปลอดภัยสูง ความสามารถในการบำรุงรักษาสูง รวมถึงเปิดกว้างและเข้ากันได้ดี นอกจากนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้อัปเกรดเกาส์ดีบี ซึ่งเป็นคลังข้อมูลคลาวด์ที่สามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ที่มีฟีเจอร์ชั้นนำของอุตสาหกรรมมากมาย
คุณจัสติน เฉิน (Justin Chen) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของแบงก์ นีโอ คอมเมิร์ซ (Bank Neo Commerce หรือ BNC) ธนาคารดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ได้มาร่วมแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างธนาคารดิจิทัลร่วมกับหัวเว่ย คลาวด์ โดยกล่าวว่า บริการธนาคารดิจิทัลของทางธนาคารได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบจากทรัพยากรคลาวด์ที่ยืดหยุ่น ส่งผลให้การทำซ้ำและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จากระยะเวลาหลายเดือนเหลือเพียงหลายวัน นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวมากขึ้นยังช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อีกด้วย การร่วมมือกับหัวเว่ย คลาวด์ ส่งผลมีผู้ใช้บริการธนาคารดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เป็น 23 ล้านรายภายในเวลาเพียง 9 เดือน และขณะนี้ผู้ใช้กำลังได้รับบริการที่สะดวกสบายและราบรื่น
คุณหลิว ป๋อ (Liu Bo) รองผู้อำนวยการฝ่ายระบบ ภายใต้ดาต้าเซ็นเตอร์ของธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน (Agricultural Bank of China หรือ ABC) ได้แบ่งปันแนวทางที่ทางธนาคารใช้สร้างแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟ “1+4” เพื่อให้บริการด้วยความเสถียรและคล่องตัว โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือการสร้างคอนเทนเนอร์ (Containerization) แบบ 100%
คุณไป่ จ่ง (Bai Jiong) สถาปนิกอาวุโสด้านคลังข้อมูลของธนาคารไชน่า เมอร์แชนท์ส แบงก์ (China Merchants Bank หรือ CMB) ได้แบ่งปันแนวปฏิบัติของธนาคารในการสร้างคุณค่าจากข้อมูลและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจผ่านคลังข้อมูลบนคลาวด์ โดยได้สร้างคลังข้อมูลการเงินระดับโลกขนาดใหญ่พิเศษบนเกาส์ดีบี ผ่านความพยายามร่วมกันกับหัวเว่ย ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการให้บริการธนาคารดิจิทัลต่อไปในอนาคต