การประชุมอัลตร้าบรอดแบนด์ ฟอรัม (Ultra-Broadband Forum) ประจำปี 2565 เปิดม่านแล้ววันนี้ที่กรุงเทพฯ โดยมีคุณเดวิด หวัง (David Wang) กรรมการบริหารของหัวเว่ย (Huawei) และประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐานไอซีที กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องก้าวสู่อัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G (Stride to Ultra-Broadband 5.5G) โดยในระหว่างการกล่าวปาฐกถาครั้งนี้ คุณหวังได้สรุปการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น บ้านอัจฉริยะ วิทยาเขตอัจฉริยะ และอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมภายในปี 2573 นอกจากนี้ เขายังกล่าวอย่างชัดเจนว่า อัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G จะเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่โลกอัจฉริยะและแนะนำให้อุตสาหกรรมใช้ 4 ขั้นตอนสำคัญเพื่อเร่งกระบวนการนี้ อีกทั้งเรียกร้องให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมทั้งหมดทำงานร่วมกันและก้าวไปสู่อัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G ได้เร็วขึ้น  เมื่อเราเข้าใกล้โลกอัจฉริยะในปี 2573 ความเร็วของบรอดแบนด์บ้านจะสูงถึง 10 กิกะบิตต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างมากจาก 1 กิกะบิตต่อวินาทีในปัจจุบัน ทุกวันนี้ บ้านมีอุปกรณ์เฉลี่ย 5-20 เครื่องที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายไวไฟ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะแปรเปลี่ยนไปเมื่ออุปกรณ์บ้านอัจฉริยะถูกนำไปใช้ในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 150-200 ดังนั้นไฟเบอร์จึงจำเป็นต้องเข้าถึงทุกห้องของทุกบ้านได้

ภายในปี 2573 เครือข่ายไวไฟจะมอบประสบการณ์ 10 กิกะบิตต่อวินาทีได้หลายแบบสำหรับวิทยาเขตขนาดกลางและขนาดใหญ่ อีกทั้งจะต้องสนับสนุนการดำเนินการและการจัดการที่ชาญฉลาด องค์กรขนาดย่อมและเล็กจะต้องมีเครือข่ายไวไฟที่มอบแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่ได้ รวมถึงประสบการณ์ระดับพรีเมียม และบริการอินทราเน็ตแบบครบวงจร อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมจะต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า 10 กิกะบิตต่อวินาที และเวลาแฝงที่ต่ำกว่าหนึ่งมิลลิวินาที องค์กรต่าง ๆ จะนำกลยุทธ์มัลติคลาวด์มาใช้ ซึ่งต้องการให้เครือข่ายปรับการกำหนดเส้นทางแบบพลวัต ด้วยการขับเคลื่อนโดยการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบอัตโนมัติ เราจะเห็นความจุเครือข่าย การประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพ O&M เพิ่มขึ้น 10 เท่า  “อัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G จะเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางของเราสู่โลกอัจฉริยะ โดยเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ผู้เล่นในอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรมาตรฐาน หน่วยงานกำกับดูแล ผู้ปฏิบัติงาน และผู้จำหน่ายอุปกรณ์ จะต้องทำงานร่วมกัน ผมขอให้ทุกคนทำงานร่วมกันต่อไป โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G สร้างเครือข่าย 5.5G และพัฒนาระบบนิเวศ 5.5G เราจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้า และก้าวไปสู่อัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G ร่วมกัน” คุณหวัง กล่าว

4 ขั้นตอนที่คุณหวังกล่าวว่าอุตสาหกรรมต้องดำเนินการ เพื่อเข้าถึงอัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G ได้แก่

ประการแรก กำหนดมาตรฐานยุคใหม่ และบรรลุฉันทามติทั่วทั้งอุตสาหกรรม

สถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมยุโรป (ETSI) ได้เริ่มกำหนดมาตรฐานของ F5G Advanced ด้วยมาตรฐานรีลีส 3 (Release 3) และได้เผยแพร่รายงานหัวข้อ ETSI White Paper: Fixed 5th Generation Advanced and Beyond ในเดือนกันยายน 2565 ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมเกี่ยวกับแสงโดยเฉพาะ และภายในปี 2568 นั้น กรณีการใช้งานบ้านอัจฉริยะและการตรวจจับใยแก้วนำแสงจะได้รับการแก้ไขตามมาตรฐานเหล่านี้  ในอุตสาหกรรม IP ทั้งหมดนั้น หัวเว่ยยังเผยแพร่รายงานหัวข้อเน็ต5.5จี (Net5.5G) ระหว่างการประชุมครั้งนี้ โดยหัวเว่ยเชื่อว่า เน็ต5.5จีจะมีแบนด์วิดท์ใหญ่ขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพ SRv6 ได้อย่างยืดหยุ่นแบบครบวงจรภายในปี 2566 ส่วนภายในปี 2568 เครือข่าย IP คาดว่าจะรับรู้ถึงพลังการประมวลผลและแอปพลิเคชัน ซึ่งช่วยให้มอบประสบการณ์เครือข่ายและการรับประกันบริการที่ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ทางอุตสาหกรรม

ประการที่สอง การร่วมกันส่งเสริมการใช้มาตรฐานต่าง ๆ ตลอดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การปรับใช้ และการดำเนินงาน

ในแง่เครือข่ายออปติคอลนั้น GPON, 10G PON และ 50G PON Combo จะเข้ากันได้กับเครือข่าย ODN ที่มีอยู่ในปัจจุบันของผู้ให้บริการ พร้อมสนับสนุนการอัปเกรดอย่างต่อเนื่องและราบรื่น สถาปัตยกรรม C-WAN สามารถใช้ได้บนเครือข่าย FTTR ซึ่งสนับสนุนประสบการณ์กิกะบิตต่อวินาทีที่เสถียรทั่วทั้งบ้าน และลดเวลาในการโอนย้ายโรมมิงให้เหลือน้อยกว่า 20 มิลลิวินาที ในการส่งสัญญาณด้วยแสง สเปกตรัมที่ใช้ได้สำหรับเครือข่าย 400G WDM จะเพิ่มขึ้นจาก 8 เทระเฮิรตซ์เป็น 12 เทระเฮิรตซ์  โดยสิ่งนี้จะเพิ่มจำนวนความยาวคลื่นถึง 50% และมอบความสามารถในการส่งไฟเบอร์เดี่ยวสูงถึง 100T ส่วน WDM ในเมืองจะมีเทคโนโลยี WDM ที่รวบรวมความยาวคลื่นใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแบ่งปันความยาวคลื่นเขตเมืองในวงแหวนหลายวงได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งช่วยลด TCO ได้อย่างมาก และสนับสนุนการปรับใช้ WDM เพื่อเข้าถึงไซต์ต่าง ๆ

ในแง่ IP นั้น ตัว Wi-Fi 7 จะใช้เทคโนโลยี CO-SR และ CO-OFDMA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ และยกระดับประสบการณ์ทั่วทั้งเครือข่าย ซึ่งจะต้องอาศัยการสนับสนุนจากเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น UL OFDMA และ UL MU-MIMO เพื่อพัฒนาความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยเทคโนโลยี APN6 และ SRv6 ยังส่งมอบความช่วยเหลือที่มีประโยชน์ ด้วยการตรวจจับพลังการประมวลผลและข้อกำหนดด้านการใช้งาน ตลอดจนกำหนดค่าทรัพยากรระบบคลาวด์แแบบพลวัต เพื่อที่บริษัทสามารถเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เทคโนโลยี IP ที่กำหนดตายตัวได้สามารถนำมาใช้งานเพื่อลดการรบกวนระหว่างการรับส่งข้อมูลและความล่าช้าบนเครือข่าย IP ให้เหลือน้อยกว่า 20 ไมโครวินาที

ประการที่สาม เปิดตัวอัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G ให้เร็วขึ้น ด้วยการใช้นโยบายและเครือข่ายเป้าหมาย

มาตรฐานและเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะสร้างมูลค่าได้ก็ต่อเมื่อนำไปใช้งานกับเครือข่ายที่ดำเนินการจริงเท่านั้น รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องปรับใช้นโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์บรอดแบนด์ระดับประเทศ นโยบายการปรับใช้ไฟเบอร์ และมาตรฐานการก่อสร้าง เพื่อเร่งการเปิดตัวเครือข่ายกิกะบิต FTTH และช่วยทำให้ไฟเบอร์เข้าถึงทุกห้องของทุกบ้านได้ ผู้ประกอบการยังมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเขาจะต้องกำหนดสถาปัตยกรรมเครือข่ายเป้าหมายสำหรับปี 2568 และ 2573 นอกจากนี้ ยังต้องเร่งการเปิดตัวเครือข่าย FTTH และ FTTR การปรับใช้เมโทร WDM เพื่อเข้าถึงไซต์, อัปเกรดจากเครือข่าย IP เป็นเครือข่าย SRv6 และการปรับใช้ 400G และ 800G สำหรับการส่งข้อมูลและเครือข่ายไอพี

ประการที่สี่ สำรวจการใช้งานใหม่ ๆ และสร้างระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรือง

ผู้เล่นในอุตสาหกรรมและพาร์ทเนอร์ในระบบนิเวศจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสำรวจว่าอัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G จะมีลักษณะอย่างไร โดยอัลตร้าบรอดแบนด์ 5.5G จะสามารถรองรับการใช้งานใหม่ที่มีศักยภาพสูง และเมื่อใช้งาน 10 กิกะบิตต่อวินาทีในทุกที่ การใช้งาน เช่น เกมเมตาเวิร์ส และการโต้ตอบแบบเรียลไทม์จะแพร่หลายในวงกว้างมากขึ้น พร้อมเดินหน้าสำรวจสถานการณ์การใช้งานใหม่ในวิทยาเขต เช่น สำนักงานเสมือนจริงและสำนักงานที่ใช้หุ่นยนต์ช่วยงาน รวมถึงบริการสำหรับองค์กรขนาดย่อมและเล็ก เช่น เครือข่าย Wi-Fi แบบครบวงจร  หัวเว่ยเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะต้องร่วมมือกับบริษัทอินเทอร์เน็ตระดับอุตสาหกรรม เนื่องจากพวกเขาทำงานกับประสบการณ์เชิงกำหนด และการกำหนดเส้นทางที่ยืดหยุ่นเพื่อรองรับอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยบ่มเพาะการใช้งานในการควบคุมอุตสาหกรรมแบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่อระดับองค์กรบนระบบมัลติคลาวด์

มาตรฐานนี้ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอัลตร้าบรอดแบนด์อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการ FTTH ใหม่ 790 ล้านราย และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้ 100 ล้านรายเริ่มใช้งานบริการกิกะบิต และในปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการ FTTR เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านราย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังใช้งานสายส่วนตัว OTN คุณภาพสูงประมาณ 50,000 สาย รวมถึงสายองค์กรคลาวด์ส่วนตัวอีก 600,000 สาย และจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 กว่า 27 ล้านจุดทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเครือข่าย 400G WDM ที่มีอยู่กว่า 130 แห่ง เทคโนโลยี ROADM ที่เชื่อมต่อข้ามกันแบบออปติคัลทั้งหมดกว่า 15,000 รายการ และเครือข่าย IP ที่รองรับ SRv6 กว่า 100 เครือข่ายที่เปิดตัวแล้วทั่วโลก