วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 เวลา 06.00 น. ณ สนามอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดกิจกรรมเดิน–วิ่ง การกุศล KURUN # 3 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อร่วมสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี นิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน บุคลากร ประชาชน และเครือข่าย สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ส.มก.) จำนวนกว่า 2,000 คน เข้าร่วมกิจกรรม นับเป็นการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง KURUN อย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงออกถึงสุขภาพอนามัยที่ดี และยังเป็นการรวมพลังความรักสามัคคีของลูกสีเขียวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครอบครัวเกษตรศาสตร์ และประชาชน รวมถึงร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 และเพื่อนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย สนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นิสิตเก่า KU 33 อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการโครงการเดิน–วิ่ง การกุศล KURUN # 3 ประธานในพิธี กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการรวมพลังของประชาชน นิสิตเก่า บุคลากรและนิสิตปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลอดจนนักวิ่งทั่วประเทศ ให้ตระหนักถึงสุขภาพที่ดี อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลเพื่อทำความดีในการร่วมสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งโรงพยาบาลและคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนและสังคมในอนาคต นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวเกษตรศาสตร์ที่จะนำองค์ความรู้งานวิจัยที่เข้มแข็งทางด้านการเกษตรมาดำเนินการในด้านการแพทย์สมัยใหม่เสริมจากการแพทย์ในปัจจุบัน นับเป็นก้าวย่างแห่งการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในโอกาสครบรอบ 80 ปี แห่งการสถาปนา
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม นิสิตเก่า KU 39 รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเดิน–วิ่ง การกุศล KURUN # 3 กล่าวว่ากิจกรรมเดิน–วิ่ง การกุศล KURUN # 3 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อร่วมสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดขึ้นเป็นซี่รีย์ 4 สนาม 4 บรรยากาศของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มที่ วิ่งลั่นทุ่ง @บางเขน วันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิ่งลั่นสมุทร @ศรีราชา วันที่ 7 มกราคม 2567 ที่วิทยาเขตศรีราชา จ.ชลบุรี วิ่งป่าลั่น @สกลนคร วันที่ 21 มกราคม 2567 ที่วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และ วิ่งชมพูพันธุ์ทิพย์ @กำแพงแสน วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ทั้งนี้ เป็นการพบปะกันของพี่น้องครอบครัวเกษตรศาสตร์ที่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน มก. เป็นทั้งการรำลึกความหลัง ย้อนความทรงจำในอดีต และชมการเปลี่ยนผ่านของมหาวิทยาลัย ผ่านการเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพรอบรั้วมหาวิทยาลัย ในบรรยากาศของมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 1 ของประเทศไทย สามสมัยซ้อน และ อันดับที่ 38 ของโลก และยังเป็นการรวมพลังเพื่อร่วมกันสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่จะก่อสร้างขึ้นในเดือน เมษายน 2567 นี้อีกด้วย
ดร.ไกร ตั้งสง่า นิสิตเก่า KU 30 อุปนายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ จัดโดยสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศ แบ่งออกเป็น 4 สนาม 4 บรรยากาศของมหาวิทยาลัย สามารถเลือกระยะการวิ่ง ได้ 4 ระยะ คือ Family run 2.5 กม.ค่าสมัคร 500 บาท Fun Run 5 กม.ค่าสมัคร 600 บาท Mini Marathon 10 กม. ค่าสมัคร 700 บาทและ Half Marathon 21 กม. (เฉพาะสนามกำแพงแสน) ค่าสมัคร 900 บาท และพิเศษสำหรับการสมัครครบ 4 สนาม ทุกระยะการวิ่ง จะได้รับเสื้อที่ระลึก VIP เพิ่มอีก 1 ตัว นับเป็นการรวมพลังเพื่อทำความดี “วิ่งต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์” ระดมทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้กับประชาชน
ความพิเศษสูงสุดของผู้ที่ชนะเลิศการวิ่งในระยะ 10 กม. (คะแนนรวม 4 สนาม) ชาย/หญิง และระยะ 21 กม. ชาย/หญิง จะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท สำหรับระยะ 10 กม. และ 21 กม. มีการแข่งขันแบ่งตามรุ่นอายุ 7 รุ่น ชาย/หญิง รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ1- 2 จะได้ถ้วยรางวัลและเงินรางวัล อันดับ 1- 5 แบ่งตามรุ่นอายุ จะได้ โล่รางวัล ได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รุ่นอายุ 20-29 ปี รุ่นอายุ 30-39 ปี รุ่นอายุ 40-49 ปี รุ่นอายุ 50-59 ปี รุ่นอายุ 60-69 ปี และรุ่นอายุ 70 ปีขึ้นไป สำหรับระยะ 5 กม. ชาย/หญิง รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ1- 2 จะได้ถ้วยรางวัลและเงินรางวัล และทุกระยะการวิ่ง ทั้ง 4 สนาม มีรางวัลมอบให้กับผู้ที่เข้าเส้นชัย 100 คนแรก เป็นมาสคอต(หมอน)สัญลักษณ์ของสนามวิ่ง คือ สนามบางเขน ได้แก่ มาสคอตดอกนนทรี สนามศรีราชา ได้แก่ มาสคอตปลากระโทงแทง สนามสกลนคร ได้แก่ มาสคอตดอกบัว สนามกำแพงแสน ได้แก่ มาสคอตดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ระยะ 2.5 กม. และ 5 กม. ไม่แยกชาย/หญิง 100 คนแรก ระยะ 10 กม. และ 21 กม. แยกชาย/หญิง 50 คนแรก ความพิเศษสุดท้ายเพื่อสร้างสีสัน และความตระหนักในการรักษ์โลกรักษ์ธรรมชาติ จะมีการประกวดการแต่งกายแฟนซี ภายใต้ธีมรักษ์โลกรักษ์ธรรมชาติ KURUN # 3 ซึ่งจะมีการประกวดทั้ง 4 สนาม นักวิ่งแฟนซีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ 1 – 2 จะได้รับเงินรางวัล 2,000 บาท 1,500 บาท และ1,000 บาท ตามลำดับ
ข่าวโดย ผกามาศ ธนพัฒนพงศ์ /หัวหน้างานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ / 10 ธันวาคม 2566