เปิดงานยิ่งใหญ่ “สมโภชพระอาราม ๒๓๐ ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” พร้อมเชิญชวนแต่งกายชุดไทยเที่ยวงานวัดร่วมสมัย บรรยากาศแบบชาววัง วันนี้ – ๑๑ พ.ย. นี้
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ จัดเป็นพระอารามหลวงคู่กรุงรัตนโกสินทร์ที่มีอายุยาวนานมากกว่า ๒๓๐ ปี ที่ล่าสุดได้ผสานความร่วมมือกับ มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมภ์ และ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี เพื่อเตรียมจัด งาน “สมโภชพระอาราม ๒๓๐ ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” ๒๓๓๑-๒๕๖๑ The Grand Festival Commemorating The 230th Anniversary of Wat Phra Chetuphon (Wat Pho) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๑-๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ตั้งแต่ เวลา ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. พร้อมเชิญชวนพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และต่างชาติ ร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์แห่งอารยธรรม ๒๓๐ ปี และความศักดิ์สิทธิ์ของ “วัดโพธิ์” ร่วมแต่งกายชุดไทย “ย้อนยุคกรุงรัตนโกสินทร์”
เพลิดเพลินใจไปกับมหรสพ และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมแบบชาววังที่หาชมได้ยาก ท่ามกลางบรรยากาศงานวัดร่วมสมัย เฉลิมฉลองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดอันดับ ๑ ในประเทศไทย อันดับ ๓ ของเอเชีย และอันดับ ๑๗ ของโลก
เกี่ยวกับการสมโภชพระอารามดังกล่าว
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร จัดงานสมโภชพระอารามในวาระที่ วัดพระเชตุพน ครบรอบการสถาปนา ๒๓๐ ปี นับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดในปี พ.ศ. ๒๓๓๑ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่วัดพระเชตุพนได้จัดงานสมโภชขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์และเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของวัดพระเชตุพนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันผ่านนิทรรศการ ๒๓๐ ปี ความทรงจำโลก รวมถึงจารึกวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาไทยล้ำค่า มีที่เดียวในโลก จารึกเก่าสุดเล่าการสร้างวัดโพธิ์เป็นที่มางานสมโภชครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีจารึกบอกเรื่องการแพทย์ ส่วนตำรานวดที่จารึกบนแผ่นศิลามี ๖๐ แผ่น ปี ๒๕๕๔ ยูเนสโกมีมติรับรองเป็นมรดกโลก ปัจจุบันมีแผนอนุรักษ์ คัดลอกจารึก และทำทะเบียนโบราณวัตถุไว้ทุกแผ่นจากทั้ง ๘ หมวดวิชา จารึกที่รวมในวัดโพธิ์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต มาเที่ยวชม และตื่นตากับการแสดงมหรสพสมโภช ๒๓๐ ปีได้ตลอดการจัดงาน ๑๐ วัน ๑๐ คืน ”
ด้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ในนามไวยาวัจกรวัดพระเชตุพน และมูลนิธิสิริวัฒนภักดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นพระอารามหลวงที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง ดังนั้นพุทธสถานแห่งนี้จึงมีความสำคัญและมีความสวยงามตระการตาอย่างยิ่ง โดยวัดโพธิ์ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ ๙๙ องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยในงานสมโภชพระอาราม ๒๓๐ ปี ที่จัดขึ้นครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมเฉลิมฉลองความเป็นมรดกพุทธ มรดกโลก ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นสถานที่สำคัญอันดับ ๑๗ ของโลกแล้ว ยังได้ร่วมเสริมความเป็นสิริมงคล ด้วยการทำบุญไหว้พระ สักการะพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามที่สุดในโลก สักการะพระพุทธเทวปฏิมากร ชมความงามของพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ต้นตำรับนวดแผนไทยวัดโพธิ์ นิทรรศการ ๒๓๐ ปี ความทรงจำโลก เที่ยวชมจารึกวัดโพธิ์ มรดกความทรงจำแห่งโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ร่วมตักบาตรสตางค์ ห่มผ้าองค์พระ ๒๓๐ องค์ รอบพระระเบียงพระอุโบสถ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพพระเคราะห์ อันเป็นอานิสงส์อย่างสูงสุด นอกจากนี้ยังได้ร่วมชมการละเล่นย้อนยุค และการแสดงต่าง ๆ อีกมากมาย
ซึ่งในงานสมโภชครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ทางวัดพระเชตุพน ได้รับการประสานจากผู้แทนแห่งนครรัฐวาติกัน โดยมองซินญอร์อินดูนิล และท่านฯ อายูโซแห่งสมณกระทรวงว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา ณ นครรัฐ วาติกัน แจ้งว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส หรือ โป๊ปฟรานซิส พระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 ได้มีพระสมณประสงค์จะส่งผู้แทน ในฐานะทูตจากวาติกันและคณะเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีสมโภชพระอาราม 230 ปี วัดพระเชตุพน ด้วย โดยทางคณะทูตวาติกันมีความประสงค์ที่จะเข้านมัสการพระเทพ วีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ ของวัด ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธไสยาส หรือ พระนอน ที่มีความสวยงามและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ยักษ์วัดโพธิ์ จารึกวัดโพธิ์ พระอุโบสถ รวมถึงชมฤาษีดัดตน เพื่อศึกษาประวัติเรื่องราวสำคัญที่สามารถนำไปเผยแพร่ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกัน ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ชมและยังเป็นการบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลกอีกด้วย
และนอกเหนือจากการแสดงทางวัฒนธรรมที่หาชมได้ยากแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้เที่ยวชม และตื่นเต้นไปกับงานศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “Bangkok Art Biennale 2018” ครั้งแรกของกรุงเทพมหานครที่จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมระดับโลก ด้วยการนำชิ้นงานของศิลปินชื่อดังระดับโลก มาจัดแสดงไว้ที่วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ อีกด้วย”ในด้าน
นักแสดงสาว“ขวัญ – อุษามยไวทยานนท์”
ในนามตัวแทนของพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมประชาสัมพันธ์การจัดงานครั้งนี้เปิดใจว่า “ขวัญรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาสัมพันธ์งาน “สมโภชพระอาราม ๒๓๐ ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” ซึ่งขวัญมีความเลื่อมใสและศรัทธา เพราะวัดโพธิ์เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง หากมีเวลาว่าง ขวัญและคุณแม่ก็มักจะเข้ามาทำบุญไหว้พระที่วัดนี้อยู่เป็นประจำ ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนเยาวชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกันแต่งกายชุดไทย เข้ามาเที่ยวชมงานตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน เต็มอิ่มไปกับมหรสพที่หาชมได้ยากในปัจจุบันและการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศงานวัดแบบชาววัง ตลอดการจัดงาน ๑๐ วัน ๑๐ คืน มาร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์วัดโพธิ์ไปด้วยกันค่ะ”
สำหรับงานสมโภชพระอาราม ๒๓๐ ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ตั้งแต่วันนี้ -๑๑ พฤศจิกายน เพื่อเป็นการจารึกประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของสถานที่สำคัญอันเป็นมรดกของชาวไทยสู่การเป็นมรดกโลก ให้บรรดาพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินใจไปกับการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมมากมาย ที่จะสร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม อาทิ
• การแสดงและสาธิตการละเล่นของหลวง ที่ปรากฏอยู่ในจารึกวัดโพธิ์ อาทิ กุลาตีไม้ โมงครุ่ม
• การแสดงฤาษีดัดตน ระบำแม่ซื้อ รำฉุยฉายพราหมณ์ ตำนานท่าเตียน โขน จำอวดหน้าม่าน การบรรเลงวงเครื่องสาย การแสดงลำตัดคณะแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ การแสดงกระบี่กระบองจากสำนักดาบพุทไธสวรรย์ ระบำวิชนี การแสดงวงดนตรีลูกทุ่ง จีนรำพัด การแสดงสิงโต ออกแขก ๑๒ ภาษา การแสดงลิเก
• การเสวนา ในช่วงเวลา ๑๗.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. ของทุกวันตลอดการจัดงาน อาทิ หัวข้อ กำเนิดรามเกียรติ์
ภาพสลักรามเกียรติ์ที่พนักรอบพระอุโบสถ ภาพจับรามเกียรติ์ที่หอพระไตรข้างตำหนักวาสุกรี และการแสดงการพื้นบ้านสืบสานวัฒนธรรมอีกมากมาย เรียกว่างานนี้ นอกจากพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวจะได้อิ่มบุญ อิ่มใจ ไปกับการสัมผัสกับอารยธรรม และประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างแล้ว ยังได้ร่วมฉลองสมโภช พระอาราม ๒๓๐ ปี เพื่อบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลกอีกด้วย