การได้เข้าไปเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ ยงหมูของเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่ งกับซีพีเอฟ เมื่อตอนที่เรียนชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาสัตวศาสตร์ ภาควิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลั ยมหาสารคาม กลายเป็นการจุดประกายสำคัญที่ ทำให้ อนุวัฒน์ ศรีโฉม ตั้งความหวังว่าสักวั นหนึ่งจะต้องได้เป็นเจ้าของกิ จการฟาร์มเลี้ยงหมู และประสบความสำเร็จแบบนั้นให้ ได้ หลังเรียนจบ อนุวัฒน์ เริ่มต้นอาชีพสัตวบาลฟาร์มเลี้ ยงสุกร กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด หรือซีพีเอฟ เมื่อปี 2557 รับผิดชอบดูแลฟาร์มปิดของบริษัท เริ่มจากการเลี้ยงหมูขุน และย้ายไปดูหน่วยผสม-คลอด จากนั้นมีโอกาสได้ไปดู แลเกษตรกรที่โครงการหมู่บ้ านเกษตรกรรมหนองหว้า จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ได้เรียนรู้ระบบการบริ หารจัดการในรูปแบบคอนแทรคฟาร์ มมิ่ง โดยรับผิดชอบแลเกษตรกรที่นี่ 4 ปี จึงขอย้ายไปดูแลฟาร์มหมูของบริ ษัทที่ขอนแก่นและหนองคาย เพื่อให้สามารถดูแลภรรยาที่ตั้ งท้องได้ใกล้ชิดขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีแนวคิดที่จะสานฝั นทำฟาร์มเลี้ยงหมูของตนเอง
การได้เป็นสัตวบาลกับซีพีเอฟ เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากว่า 10 ปี มีโอกาสรับผิดชอบในทุกหน่วย ทั้งหน่วยผสม-คลอด หมูขุน หมูสาว พ่อพันธุ์ จนถึงฝ่ายขาย ในปี 2566 เขาจึงตัดสินใจลาออกเพื่อเริ่ มต้นอาชีพใหม่กับการเป็ นเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) ทำฟาร์มเลี้ยงหมูขุนกับซีพีเอฟ ในโครงการส่งเสริมสุกรขุนอุ ดรธานี ก่อสร้าง หจก. พรรณนิภาฟาร์ม ที่ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี บนพื้นที่ 10 ไร่ เลี้ยงหมูขุน 2 โรงเรือน ความจุโรงเรือนละ 800 ตัว การเลี้ยงหมูอยู่ภายใต้ มาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์ โดยนำประสบการณ์ทั้งหมดมาปรั บใช้ทั้งหมด เน้นการปรับสภาพแวดล้อมในโรงเรื อนให้ดี อากาศดี คูลลิ่งแพด (Cooling Pad) ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ต้องไม่มีลมร้อนเข้า เล้าปิดมิดชิดไม่มีรอยรั่ว น้ำต้องสะอาด อาหารไม่เป็นฝุ่น “เริ่มเลี้ยงหมูรุ่นแรกเข้าเลี้ ยงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่ านมา สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก็ถึงกำหนดจับหมูออก การเลี้ยงหมูมีประสิทธิภาพดี ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะจุดเริ่มต้นที่ดี ตั้งแต่การรับหมูจากฟาร์มต้ นทางที่มีสุขภาพดี เมื่อเรารับไม้ต่อมาเลี้ยงก็ให้ ความสำคัญกับการดูแลลูกหมูในช่ วงแรก มีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากพบหมูป่วยจะแยกออกไปรักษาที่ คอกป่วยทันที เน้นการให้อาหารน้อยแต่บ่อยครั้ ง มีการกระตุ้นการกินอาหารด้ วยการผสมน้ำ ทำให้หมูกินอาหารได้ดี อัตราการเจริญเติบโตดี ไม่ป่วย ทำน้ำหนักได้ดี อัตราเสียหายปัจจุบันไม่ถึง 1%” อนุวัฒน์ เล่า
ที่สำคัญ หจก. พรรณนิภาฟาร์ม ยังใช้การจัดการฟาร์มสมัยใหม่ ในรูปแบบสมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) การควบ Cooling PAD และระบบน้ำ มีระบบให้อาหารอัตโนมัติ Auto Feed การควบคุมพัดลมเชื่อมต่อกับระบบ Biogas และติดตั้ง CCTV ทำให้สามารถดูแลหมูได้โดยที่ไม่ ต้องเข้าไปในโรงเรือน ทำให้เห็นความเป็นอยู่ หรือความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้ น ขณะเดียวกัน ยังช่วยป้องกันโรคได้อย่างดี เพราะสามารถตรวจสอบบุคคลที่ต้ องอาบน้ำสระผมก่อนเข้าฟาร์ม และยังวางแผนใช้โซล่าเซลล์เพื่ อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ มในระยะอันใกล้นี้ “ฟาร์มของเราดำเนิ นการตามมาตรฐาน “กรีนฟาร์ม” ของบริษัท ด้วยโมเดลธุรกิจสีเขียว ฟาร์มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น ใช้ระบบ Biogas 100% และกำลังจะติดตั้งระบบกรองกลิ่ นท้ายโรงเรือนทำเพื่อป้องกันกลิ่ นเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังทำ “โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร” ส่งน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว ให้แก่เกษตรกร 2-3 ราย ในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มาขอรับน้ำไปใช้ในสวนปาล์ มและไร่อ้อย และจะแจกการมูลที่ได้จากระบบ Biogas ที่ตากแห้งแล้ว ให้กับเกษตรกร ช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าปุ๋ยได้อี กด้วย” อนุวัฒน์ กล่าว
วันนี้ อนุวัฒน์ ได้ทำตามฝันมีธุรกิจส่วนตั วและได้อยู่กับครอบครัวอย่างที่ ตั้งใจ โดยได้วางรากฐานไว้ให้กับลูก พาเขาเข้าไปสัมผัสกับอาชีพของพ่ อแม่ ได้ลงมือดูแลหมูด้วยตัวเอง และเขาเชื่อว่านี่จะเป็ นมรดกอาชีพในอนาคตของลูกๆ ได้อย่างแน่นอน.