วันที่ 23 มีนาคม 2565 เวลา 9.00 -12.00 น. คณะกรรมการสภาการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นาย ประชุม ผงผ่าน ประธานคณะกรรมการสภาการศึกษาฯ นายนพภา พันธุ์เพ็ง ผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา และคณะกรรมการสภาการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมแลกเปลี่ยนแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายทรงยุทธ ด้ามทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนวารินชำราบ คณะผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้การต้อนรับ และร่วมเสวนาเสนอข้อคิดเห็น จากภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา2019 (Covid-19)อย่างต่อเนื่องเกือบ 2 ปี พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
โดยเฉพาะในเขตอำเภอวารินชำราบ ยังคงมีผู้ติดเชื้ออันดับต้นๆของจังหวัด ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และระบบการศึกษาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โรงเรียนวารินชำราบ จึงจัดการประชุมเสวนา ในหัวข้อแนวทางพัฒนาโรงเรียนอย่างไร ในการแก้ปัญหานักเรียนออกกลางคัน และยอดรับนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีโรงเรียนดังประจำจังหวัด รายล้อมถึง 3 โรงเรียน
โดยประเด็นการเสวนา
ได้แก่ 1. การถอดบทเรียนการแก้ปัญหาการออกกลางคัน ของโรงเรียน เพื่อศึกษาเป็นกรณีศึกษาและเป็นแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษาอื่นที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
2.ร่วมเรียนรู้ปัญหาของโรงเรียนที่กำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน
3.เยี่ยมชมโรงเรียนวารินชำราบและรับฟังแนวทางการพัฒนาสถานศึกษา ของโรงเรียนวารินชำราบ
โดย นายทรงยุทธ ด้ามทอง ได้นำเสนอข้อมูลด้านการบริหารสถานศึกษาที่ประสบความสำเร็จ จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหานักเรียนออกกลางคัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โครงการพาน้องกลับห้องเรียน ความสำเร็จในการจัดทำหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการและศักยภาพของผู้เรียนที่แตกต่างกัน
โดยคณะกรรมการสภาการศึกษาฯ ได้รับฟังบรรยาย เยี่ยมชมบริบท และสภาพพื้นที่จริงของโรงเรียนวารินชำราบ และสะท้อนผล ข้อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากหลากหลายสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยนายประชุม ผงผ่าน ประธานคณะกรรมการสภาฯ ได้ให้แนวทางในการพัฒนา โดยมุ่งเน้นให้โรงเรียนวารินชำราบ เป็นโรงเรียนทางเลือกในด้านการพัฒนาผู้เรียนตามความต้องการ และศักยภาพ ของแต่ละบุคคล อาทิเช่น Hub sport ศูนย์กลางทางด้านพัฒนาด้านกีฬา หรือ ด้านอาชีพเฉพาะ ตามความสนใจของผู้เรียน โดยประสานความร่วมมือผ่านทางระบบการศึกษาสายอาชีวะ หลักสูตรระยะสั้นของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้เพื่อสร้างความยั่งยืนและพัฒนาให้เต็มศักยภาพต่อไป
