ศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วมกับฟูจิฟิล์ม ลงพื้นที่ชุมชนห่างไกล จ. เชียงราย นำนวัตกรรมทางการแพทย์ตรวจคัดกรองวัณโรคเชิงรุก เพื่อลดข้อจำกัดด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน ศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วมกับฟูจิฟิล์ม จัดโครงการ “ออกหน่วยตรวจสุขภาพประชาชนในเขตพื้นที่ห่างไกล จ.เชียงราย” ในพื้นที่บ้านเล่าลิ่ว และบ้านปางมะหัน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการคัดกรองวัณโรคเชิงรุก และลดข้อจำกัดด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน ให้กับประชาชนในพื้นที่ ชาวเขา และชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติ
บ้านเล่าลิ่ว และบ้านปางมะหันเป็นชุมชนพื้นที่ห่างไกลในจังหวัดเชียงราย มีที่ตั้งอยู่บนเขาและห่างไกลจากตัวเมืองเกือบร้อยกิโลเมตร ทำให้คนในพื้นที่ประสบกับความยากลำบากในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และไม่เคยเข้ารับการตรวจเอกซเรย์มาก่อน เนื่องจากรถเอกซเรย์ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ นอกจากนี้ในปี 2564 ยังมีรายงานพบผู้ป่วยวัณโรคในอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายถึง 67 คนและมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 8.95 คนต่อปี ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความร่วมมือระหว่างศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และฟูจิฟิล์ม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการผสานการบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรของศูนย์บริการสุขภาพฯ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงการผ่าตัดทางการแพทย์ที่ซับซ้อน เข้ากับนวัตกรรมทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม อย่างเครื่องเอกซเรย์ FDR Xair ที่เป็นเครื่องเอกซเรย์ขนาดเล็กและสามารถเข้าถึงผู้ป่วยติดเตียงได้ การตรวจสุขภาพในครั้งนี้มีประชาชนลงทะเบียนเข้ารับการตรวจสุขภาพทั้งสิ้น 550 คน ซึ่งตรวจพบผู้ป่วยที่มีภาวะความผิดปกติทางปอดจำนวน 147 คน และได้รับการนัดหมายเพื่อเข้ารับการรักษาในลำดับต่อไป
รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจัดตั้งขึ้นตามพระนามของสมเด็จย่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งที่รู้จักในพระนาม “แม่ฟ้าหลวง” พระองค์ท่านทรงให้ความสนใจในสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของประชาชนชาวไทย จึงนำไปสู่การก่อตั้งศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขึ้น เพื่อให้บริการด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน ช่วยป้องกันประชาชนจากการเจ็บป่วย และลดภาระงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศ ศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้ความรู้และการป้องกันโรคมากว่าการรักษาโรค ซึ่งเป็นปณิธานของเราเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน”
ผศ.ดร.ธวัชชัย อภิเดชกุล รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวเสริมอีกว่า “ศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ 3P ที่ครอบคลุมถึง การป้องกันโรค (Prevention) การคัดกรองพยากรณ์โรค (Prediction) และการส่งเสริมสุขภาพ (Promotion)” ซึ่งเน้นไปยังกลุ่มประชาชนที่มีความยากลำบากต่อการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ ก่อนหน้านี้ เราพบกับอุปสรรคในการออกหน่วยตรวจสุขภาพ และการเข้าถึงผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายเครื่องมือแพทย์ไปยังพื้นที่ห่างไกล ดังนั้นโครงการตรวจสุขภาพเชิงรุกโดยการผสานความร่วมมือระหว่างศูนย์บริการสุขภาพฯ และฟูจิฟิล์ม ที่เข้ามาสนับสนุนในด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและให้การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ตลอดจนการรักษาแก่ประชาชนอย่างเหมาะสม
มร.ยูโตะ คุมาไก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ฟูจิฟิล์มมีความมุ่งมั่นอย่างจริงจังต่อการแก้ไขปัญหาสังคมในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราจึงคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง ที่ครอบคลุมมิติด้านสุขภาพที่สำคัญทั้งสามด้าน ได้แก่ การป้องกันโรค (Prevention) การวินิจฉัยโรค (Diagnosis) และการรักษาโรค (Treatment) ซึ่งในการออกหน่วยตรวจสุขภาพในครั้งนี้ เราเข้าใจถึงข้อจำกัดทางด้านการลงพื้นที่ในชุมชนห่างไกล โดยฟูจิฟิล์มได้นำนวัตกรรมการถ่ายภาพทางการแพทย์อย่าง FDR Xair มาสนับสนุนการปฎิบัติหน้าที่ของบุคคลากรแพทย์ในการตรวจสุขภาพดังกล่าวช่วยลดภาระของทีมแพทย์ได้เป็นอย่างมาก” ซึ่ง FDR Xair เป็นเครื่องเอกซเรย์ขนาดเล็กพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 3.5 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการใช้ตรวจสุขภาพผู้ป่วยติดเตียง และใช้ในพื้นที่ห่างไกลที่รถเอกซเรย์เข้าไม่ถึง อีกทั้งยังให้ปริมาณรังสีที่เพียงพอและปลอดภัยตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก นอกจากนี้ เครื่องเอกซเรย์ยังมีเทคโนโลยี AI ที่สามารถส่งภาพถ่ายทางการแพทย์เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบุตำแหน่งของความผิดปกติของปอดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ฟูจิฟิล์มให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาสังคมมาโดยตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านสุขภาพ ที่ไม่ใช่แค่เพียงสร้างผลกระทบต่อตัวบุคคล แต่ยังสร้างผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง ในปี 2564 ฟูจิฟิล์มได้ประกาศแคมเปญองค์กรใหม่ “NEVER STOP” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลากหลายอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อช่วยให้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ คืนกลับสู่สังคม